ค้นหา
ปิดช่องค้นหานี้

ท้องผูก ถ่ายยาก ลำไส้แปรปรวน โพรไบโอติกส์ช่วยได้

ปัญหา ท้องผูก ถ่ายแข็ง ถ่ายยาก เกิดได้กับบุคคลทุกช่วงวัย และเมื่อเกิดปัญหาขับถ่ายไม่ออก หลายคนจะมองหา ยาถ่าย ยาระบาย แต่ในปัจจุบันเราให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพกันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของ จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์หรือโพรไบโอติกส์ เพราะใครๆ ก็บอกว่ามีประโยชน์ช่วยได้ แต่จะจริงมั้ย วันนี้เรามีคำนแนะนำมาบอกกันค่ะ

อาการท้องผูก เป็นภาวะที่ถ่ายอุจจาระลำบาก อุจจาระเป็นก้อนแข็ง และมีขนาดใหญ่ รู้สึกเหมือนถ่ายไม่สุด อาการท้องผูกพบได้ทุกเพศและทุกวัย แต่พบมากในผู้สูงอายุ และพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ท้องผูกหากแบ่งตามระยะเวลาที่มีอาการอาจแบ่งเป็นท้องผูกเฉียบพลันซึ่งมีอาการน้อยกว่า 3 เดือน และท้องผูกเรื้อรังซึ่งมีอาการนานกว่า 3 เดือน

 

“โพรไบโอติกส์” จุลินทรีย์ชนิดดี ที่ช่วยในการขับถ่าย

โพรไบโอติกส์ เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่มีชีวิต จุลินทรีย์เหล่านี้ได้รับการคัดเลือกแล้วว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่อรับประทานเข้าไปในร่างกายแล้วจะไปตั้งรกรากอาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ เพื่อช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่แต่เดิมในลำไส้ ทำให้แบคทีเรียที่ดีมีจำนวนมากขึ้น และแบคทีเรียที่ไม่ดีจำนวนลดลง ทำให้สุขภาพของลำไส้ดีขึ้น และยังช่วยแก้ปัญหา ท้องผูก ได้ด้วย

 

ประโยชน์ของ โพรไบโอติกส์

  • ป้องกันอาการท้องผูกและท้องเสีย
  • ลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้
  • ช่วยให้อาการหลังหายจากโควิดเบาลง
  • ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น

โพรไบโอติกส์ เสริมตรงจุดลำไส้ชอบ

ปกติแล้วร่างกายคนเรามีจุลินทรีย์ที่ดีและไม่ดี แต่ถ้าจุลินทรีย์ในลำไส้มีความสมดุลจะช่วยส่งเสริมให้สุขภาพดีขึ้นทั้งในด้านอารมณ์ การนอน การย่อยอาหาร และการลดน้ำหนัก แต่พฤติกรรมของเราบางอย่างกลับทำให้จุลินทรีย์ในลำไส้เสียสมดุล เช่น กินอาหารที่ไม่ดี เครียด พักผ่อนน้อย อายุที่เพิ่มขึ้น โรคต่างๆ การใช้ยา เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาคุมกำเนิด หรือการบำบัดโรคด้วยวิธีฉายรังสี การกินอาหารที่มีจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์มีชีวิตในปริมาณที่เพียงพอ จะช่วยทำหน้าที่ปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในทางเดินอาหารได้ และการเสริมโพรไบโอติกส์ตามที่ร่างกายขาด (Personalized Probiotics) ก็จะยิ่งช่วยแก้ปัญหาสุขภาพได้ดีมากยิ่งขึ้น

แพ็กเกจลดความเสี่ยงสารก่อมะเร็ง และท้องผูก

(GASTROINTESTINAL TRACT TOXIN TESTING PANEL)

ตรวจหาความเสี่ยง และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพดังนี้

  • ท้องผูกหรือท้องเสีย
  • สารพิษจากแบคทีเรียตัวร้าย ซึ่งหลายๆ ตัวสามารถกลายเป็นสารก่อมะเร็ง
  • มีปัญหาภูมิคุ้มกัน
  • ทานอาหารไม่ถูกสุขลักษณะบ่อย (ไขมันสูง น้ำตาลสูง เนื้อแดง สุรา ฯลฯ)

เหมาะสำหรับใคร?

  • ผู้ที่มีอายุ 3 ปีขั้นไป
  • ผู้ที่มีอาการท้องไส้แปรปรวน Irritable Bowel Syndrome ท้องผูก ท้องเสีย ท้องอืด เรื้อรัง
  • ผู้ที่ชอบทานอาหาร หวาน มัน เผ็ด เนื้อแดง อาหารแปรรูป ฯลฯ
  • อยากทราบความเสี่ยงการเกิดมะเร็งลำไส้จากจุลินทรีย์ตัวร้าย (แนะนำตรวจร่วมกับ Core Microbiome Panel)
  • ผู้ที่กังวลเรื่องภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ
  • ผู้ที่ต้องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อสู้กับ COVID-19

“เพราะเซลส์ 90% ในร่างกายคือเซลส์ของจุลินทรีย์ และจุลินทรีย์ในร่างกายแต่ละคนแตกต่างกัน อยากมีสุขภาพดี ควรเสริมโพรไบโอติกส์ที่ตรงกับร่างกายตัวเองมากที่สุด”

 

โปรแกรมแนะนำ

โปรแกรมวิเคราะห์ความเสี่ยงอัลไซเมอร์เชิงลึก ระดับ DNA จากการตรวจเลือดและปัสสาวะ ซึ่งครอบคลุมทั้งระดับฮอร์โมน วิตามินและแร่ธาตุจำเป็น ระดับสารอักเสบ การขับสารพิษโลหะหนัก สมดุลสารสื่อประสาท และยีนที่สามารถส่งต่อความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์

ราคา ฿28,000.00 บาท

ปรึกษาปัญหาสุขภาพและรับสิทธิพิเศษสำหรับคุณได้ที่นี่

บทความที่เกี่ยวข้อง

ประจำเดือนผิดปกติ นัดกันทุกเดือนแต่ไม่เคยมาตรงกันสักรอบ สิ่งผู้หญิงหลายคนน่าจะพบเจอปัญหานี้กันอยู่บ่อยๆ ที่ประจำเดือนมาบ้าง ไม่มาบ้าง แต่อยากจะบอกว่าอาการเบื้องต้นเหล่านี้เราไม่ควรมองข้าม เพราะอาจเป็นสัญญาณของการเกิดโรคร้าย หรืออาการผิดปกติบางอย่างของร่างกายเราอยู่ในตอนนี้ วันนี้เราเลยมีสัญาณของ ประจำเดือนผิดปกติ มาฝากกันค่ะ 8 สัญญาณเตือนอันตรายของผู้หญิง ประจำเดือนผิดปกติ อาจการที่พบบ่อยในผู้หญิงที่หลายคนไม่ควรมองข้าม หากพบว่ามีอาการดังต่อไปนี้ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาก่อนที่จะอันตรายถึงชีวิต โดยปกติประจำเดือนของคุณผู้หญิงจะมาทุก 21-35 วัน นับจากวันแรกของรอบเดือน ถึงวันแรกของรอบเดือนถัดไป แต่มีคุณผู้หญิงหลายคนที่ประจำเดือนไม่มาตามนัด กลายเป็นประจำสองเดือน ประจำสามเดือน หรือกลายเป็นประจำปีเลยก็มี บางรายมีอาการปวดท้องน้อย ในช่วงเวลา 8-48 ชั่วโมง หลังมีประจำเดือน เนื่องจากการหลั่งสารเคมี ทำให้เกิดการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูก และหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงมดลูกมีการหดเกร็งร่วมกับอาการปวดเมื่อยหลัง อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายอุจจาระเหลว ปวดศีรษะ เจ็บหน้าอก และยังมีอาการหงุดหงิดง่าย วิตกกังวล ซึ่งอาการดังกล่าวจะหายไปเมื่อประจำเดือนหมด ฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน เป็นตัวควบคุมการสร้างและการหลุดลอก นอกจากนี้ฮอร์โมนทั้งสองยังเกี่ยวข้องกับการตกไข่จากรังไข่ในเพศหญิง ฮอร์โมนไม่สมดุลส่งผลต่อประจำเดือนไม่ปกติ ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่สมดุลจะช่วยสร้างเยื่อบุโพรงมดลูกขึ้นมา โดยเยื่อบุโพรงมดลูกจะลอกตัวกลายเป็นเลือดประจำเดือนในกรณีที่ไข่ไม่ได้รับการปฏิสนธิ หากฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล จะส่งผลให้สร้างเยื่อบุโพรงมดลูกมากเกินไป ซึ่งทำให้มีเลือดประจำเดือนมาก ทั้งนี้ หากร่างกายไม่ตกไข่ตามปกติ […]

หลายคนคงเคยได้ยินคุณสมบัติของ “น้ำด่าง” มาก่อนหน้านี้ ว่าลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง เก๊าท์ เบาหวาน กรดไหลย้อน

thThai