ค้นหา
ปิดช่องค้นหานี้
วิตามินเสริมภูมิคุ้มกัน

วิตามินเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันไวรัส เสริมไว้ก่อนชัวร์กว่า

สถานการณ์ในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เราใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น เพราะตั้งแต่มีเจ้าไวัรัสเข้ามาหลายคนก็เริ่มดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการล้างมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และที่สำคัญการทำร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ กินอาหารที่ส่งเสริมการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยลดความเสี่ยงหรือความรุนแรงจากเชื้อไวรัสต่าง ๆ ได้ และตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกันที่หลายคนมองหาก็คงหนีไม่พ้น วิตามินเสริมภูมิคุ้มกัน

ระบบภูมิต้านทานของร่างกายคนเรานั้นเปลี่ยนแปลงขึ้นลงตลอดเวลา ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น ไลฟ์สไตล์ โรคเรื้อรัง การติดเชื้อ หรือ แม้กระทั่ง ความเครียด โดยร่างกายต้องคอยต่อสู้กับศัตรูเชื้อโรคตัวร้ายที่คอยมาทำให้ร่างกายของเราอ่อนแอเป็นประจำทุกวัน ถ้าภูมิต้านทานเริ่มต่ำและร่างกายเหนื่อยล้า ก็อาจจะเจ็บป่วยได้ในที่สุด การได้รับ วิตามินเสริมภูมิคุ้มกัน ก็จะเป็นตัวช่วยเสริมให้ร่างกายของเราแข็งแรง ตัวช่วยที่เสริมภูมิต้านทานของร่างกายคือ วิตามินและสารอาหารต่างๆ เหล่านี้

วิตามินดี

6 สารอาหารเสริมสร้างภูมิต้านทาน

วิตามินเสริมภูมิคุ้มกัน
1. วิตามินเอ

ทำหน้าที่กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิต้านทานให้มีประสิทธิภาพ โดยการเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาวชนิดที่ต่อสู้กับการติดเชื้อต่างๆให้กับร่างกาย เสริมภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อในทางเดินหายใจ และ ลดระยะเวลาการเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ

อาหารที่มีวิตามินเอสูง: พริกหวานแดง ผักบุ้ง เรดโอ๊ค ฟักทอง ผักกาดหอม แครอท มะม่วง

2. วิตามินซี

มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและสร้างสมดุลให้กับระบบภูมิต้านทานของร่างกายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเวลามีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย ป้องกันการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ลดอาการไข้หวัดและช่วยต้านเชื้อไวรัส

อาหารที่มีวิตามินซีสูง: ส้ม มะขามป้อม ฝรั่ง สตรอเบอร์รี่ ปวยเล้ง คะน้า บร็อคโคลี

วิตามินเสริมภูมิคุ้มกัน
วิตามินเสริมภูมิคุ้มกัน
3. วิตามินดี

วิตามินดี มีกลไลการทำงานที่ซับซ้อน หลากหลายกลไกในระบบภูมิต้านทานปกติ โดยมีส่วนช่วยในการสร้าง และควบคุมการทำงานของเม็ดเลือดขาวทุกชนิดในระบบภูมิต้านทาน ซึ่งมีความสัมพันธ์กับโรคภูมิแพ้ โรคแพ้ภูมิตัวเอง และโรคมะเร็ง

อาหารที่มีวิตามินดีสูง: ไข่แดง ตับ นม เนย ปลาซาดีน และปลาทูน่า

4. วิตามินอี

มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับวิตามินซี ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และ เสริมภูมิต้านทานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และยังช่วยป้องกันการแตกของเม็ดเลือด ป้องกันการอุดตันของเม็ดเลือดอีกด้วย

อาหารที่มีวิตามินอีสูง: ขนุน มะขามเทศ มะม่วง มะเขือเทศ กล้วยไข่ ทับทิม อะโวคาโด กีวี่ ปวยเล้ง กุ้ง

วิตามินเสริมภูมิคุ้มกัน
วิตามินเสริมภูมิคุ้มกัน
5. โพรไบโอติกส์

ช่วยสร้างสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ช่วยให้ร่างกายขับถ่ายได้ดีขึ้น และเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร และระบบภูมิต้านทานให้อยู่ในสภาวะที่สมดุล

อาหารที่มีโพรไบโอติกส์สูง: กระเทียม หอมหัวใหญ่ ต้นหอม ต้นหอมญี่ปุ่น หน่อไม้ฝรั่ง แรดิชิโอ (ผักกาดม่วง) กะหล่ำปลี อะโวคาโด ฝรั่ง กล้วย แอปเปิ้ล

6. สังกะสี (Zinc)

ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย และ ช่วยเสริมการทำงานของวิตามินอื่นๆ เพื่อให้ระบบภูมิต้านทานทำงานร่วมกันได้อย่างมีสมดุล

อาหารที่มีสังกะสีสูง: ตับ นม เนย ปู กุ้ง ไข่ หอยนางรม มะม่วง สับปะรด แอปเปิ้ล เมล็ดทานตะวัน

วิตามินเสริมภูมิคุ้มกัน

ทางเลือกช่วยเสริมภูมิคุ้มที่ W9 Wellness

อย่าปล่อยให้ “ภูมิคุ้มกัน” อ่อนแอ จนเป็นเป้านิ่งของไวรัส ดังนั้น เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและพร้อมสู้กับไวรัสและเชื้อโรคอยู่เสมอ จึงควรดูแลระบบภูมิคุ้มกัน (Immune system) ด้วยการเสริมวิตามิน หรือการทำ IV Drip สูตร Immune Booster อยู่เสมอ หรือสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันไข้หวัด ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดียิ่งขึ้น

  1. Daily Immune Supplement วิตามินสูตรเฉพาะ 1 กระปุก (มี 30  แคปซูล)
  2. Daily Immune Pack เซ็ตวิตามิน 4 แคปซูล ( 1 pack มี 30 ซอง)
  3. Immune Booster IV Drip วิตามินสูตรเสริมสร้างภูมิต้านทานแบบเร่งด่วน เสริมเกราะป้องกันของร่างกายให้แข็งแรงจากภายในลงลึกถึงระดับเซลล์

จะเห็นได้ว่า วิตามินและสารอาหารเหล่านี้ หาได้จากอาหารใกล้ตัว และที่สำคัญอย่าลืมว่าเราต้องรับประทานอาหารที่สะอาด กินร้อน ช้อนตัวเอง ใช้ภาชนะที่สะอาด และล้างมือก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง ร่วมกับการออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ แต่หากอยากได้รับสารอาหารเหล่านี้ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และไม่ยุ่งยากในการหาวัตถุดิบมาปรุงอาหารมากจนเกินไป การรับประทานวิตามินเสริมก็ช่วยตอบโจทย์ความสะดวกสบายในยุคที่เร่งรีบแบบนี้ได้ค่ะ ยิ่งถ้าเป็นวิตามินสูตรเฉพาะที่คิดค้นและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญยิ่งเพิ่มความปลอดภัยได้มากขึ้นค่ะ

Share : 

บทความที่เกี่ยวข้อง

• ภาวะขาดวิตามินหลายชนิด รวมทั้งภาวะขาดวิตามินดี มีความสัมพันธ์กับภาวะ ซึมเศร้า• วิตามินดีระดับต่ำ อาจส่งผลต่อการควบคุมอารมณ์ การตัดสินใจ และพฤติกรรม• วิตามินดี ไม่ใช่ยารักษาโรคซึมเศร้า แต่การชดเชยวิตามินดีในคนที่มีระดับต่ำ อาจมีส่วนช่วยในการควบคุมอารมณ์ และเพิ่มคุณภาพการนอนหลับได้ ภาวะ ซึมเศร้า เป็นโรคเรื้อรัง ที่ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาสังคม ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกปี ทั้งด้านคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเอง ภาระทางสังคมต่อคนรอบข้าง และอัตราการฆ่าตัวตายที่พุ่งสูงขึ้น การรักษาโรคซึมเศร้าโดยการใช้ยาร่วมกับจิตบำบัด มีอัตราสำเร็จ 76-85% (WHO 2020) แต่ปัญหาคือมีผู้ป่วยน้อยกว่า 25% เท่านั้นที่ได้รับการรักษา และมีอีกส่วนหนึ่งที่ไม่อยากทานยา เพราะกลัวติดการใช้ยา หรืออาจเพราะทนผลข้างเคียงไม่ไหว [1] เนื่องจากภาวะซึมเศร้าเป็นโรคเรื้อรัง ซึ่งสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ โดยเฉพาะคนที่รักษาไม่ต่อเนื่อง พบว่ามีอัตราการเป็นซ้ำมากขึ้น จึงเริ่มมีความพยายามที่จะมองหาปัจจัย หรือวิธีการรักษาร่วมอื่น โดยเฉพาะทางด้านของ ภาวะโภชนาการ สารอาหาร หรือวิตามินเสริม [2] เราเริ่มมีงานวิจัยจำนวนมากขึ้น ที่พบความสัมพันธ์ของภาวะขาดวิตามิน สารอาหาร หรือแร่ธาตุ หลายชนิด กับภาวะซึมเศร้า เช่น วิตามินบี 3, วิตามินบี […]

ยิ่งแก่ยิ่งท้องผูก ปัญหาท้องผูกสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่จะพบได้บ่อยและเยอะในผู้สูงอายุ ซึ่งในประเทศไทยพบ คนแก่ท้องผูก ถึง 20-25% เลยทีเดียว ซึ่งหากสังเกตุดูคนที่อายุเยอะๆ เราจะพบว่าพวกเขาเหล่านี้มีปัญหาเรื่องลำไส้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการย่อยอาหาร ท้องอืด ท้องผูก แล้วสาเหตุท้องผูกในผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง และเราจะช่วยแก้ปัญหาท้องผูกในผู้สูงอายุยังไงกันดี แหล่งที่มาคนไทยท้องผูก กรมการแพทย์ ทำไมผู้สูงอายุถึงท้องผูก สาเหตุที่ คนแก่ท้องผูก ไม่ใช่ว่ากินไฟเบอร์ไม่พอเพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดจากการที่ระบบร่างกายมันเปลี่ยน การเผาผลาญเริ่มไม่ดี สมดุลฮอร์โมนไม่สมดุล เช่น การทำงานของไทรอยด์ลดลง รวมถึงสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ที่ลดลง เพราะตั้งแต่อายุ 40+ ขึ้นไป โพรไบโอติกส์ ในลำไส้เริ่มลดลง ทำให้จุลินทรีย์ดังกล่าวทำงานได้ไม่ดี จึงเกิดอาการท้องผูกได้ง่ายขึ้นในผู้สูงอายุ เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้วก็ต้องมองย้อนกลับไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต เราอาจจะเริ่มปรับอาหารการกิน ปรับการออกกำลังกาย การดื่มน้ำเปล่า และปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ เพราะถึงแม้เราจะคิดว่าเราทานอาหารที่เป็นออแกนิคทั้งหมด แต่อย่าลืมว่า ร่างกายของเราอาจจะไม่ได้เหมาะกับอาหารชนิดนั้นก็ได้ ยิ่งเราแก่ขึ้นร่างกายและระบบการย่อยอาหารก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว การจะกินแบบเดิมก็อาจจะไม่ได้ผล เพราะสมดุลจุลินทรีย์ในร่างกายได้เปลี่ยนไปแล้ว และถ้าจะให้ดีก็แนะนำว่าควรที่จะตรวจสมดุลจุลินทรีย์ จะได้รู้ว่าร่างกายขาดจุลินทรีย์ตัวไหน เราก็จะได้เสริมให้ตรงกับร่างกายและอาการที่เราเป็น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สาเหตุที่ผู้สูงอายุท้องผูกมีอะไรบ้าง การดูแลสุขภาพลำไส้ถือว่าเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในผู้สูงอายุ  โดยเฉพาะในเรื่องของอาหารการกิน การออกำลังกาย และการรักษาสมดุลจุลินทรีย์ในไล้ให้มีความสมดุล และถ้าเราสามารถรู้ได้ว่าร่างกายของเราขาดจุลินทรีย์ชนิดไหน […]

เนื่องจากโรคอัลไซเมอร์ สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ และปัจจัยทางพันธุกรรม อาจมีผลมากถึง 80%
thThai