يبحث
أغلق مربع البحث هذا.
ลดน้ำหนักไม่ลง

ทำไม “ลดน้ำหนักไม่ลง”? ปัญหาที่คุณอาจไม่เคยรู้

เหนื่อยไหมกับการลดน้ำหนักไม่ลง แม้จะพยายามควบคุมอาหาร ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ทำไมน้ำหนักก็ยังไม่ลดลงสักที? คำตอบอาจไม่ได้อยู่ที่แค่ความพยายามของคุณเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยลึกๆ อีกมากมายที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนัก ซึ่งเราจะมาไขข้อข้องใจไปพร้อมกัน

ทำไมลดน้ำหนักไม่ลง (ลงยาก) ปัจจัยที่คุณควรรู้

เนื่องจากว่าปัจจัยที่ทำให้เราอ้วนหรือว่ามีน้ำหนักเกินนั้น มันไม่ใช่แค่เรื่องของไลฟ์สไตล์เพียงอย่างเดียว มันยังมีเรื่องของปัจจัยแฝงอื่นๆ ที่มีผลต่อการควบคุมน้ำหนักตัวของเรา ปัจจัยแฝงเหล่านั้นมันมีอะไรบ้าง

1. ถอดรหัสพันธุกรรม เพื่อลดน้ำหนักได้ตรงจุด

    ปัจจุบันเรามีการค้นพบแล้วว่า ยีนบางชนิด ทำหน้าที่ควบคุมกระบวนการในการทำให้เราอ้วนหรือผอม ไม่ว่าจะเป็นยีนที่ควบคุมเรื่องของความอยากอาหาร ยีนที่ควบคุมความหิว ความอิ่ม หรือแม้กระทั่งยีนที่ควบคุมการเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงาน ดังนั้น ใครก็ตามที่มียีนผิดปกติ หรือยีนกลายพันธุ์เหล่านี้ ก็มีโอกาสที่จะมีรูปร่างที่อ้วนกว่าปกติ หรือว่าลดน้ำหนักได้ยากกว่าปกตินั่นเอง

    แต่อย่าเพิ่งท้อแท้ไป เพราะยีนไม่ได้เป็นตัวกำหนดทุกอย่าง เราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อควบคุมน้ำหนักได้

    สังเกตง่าย ๆ คนที่มียีนกลายพันธุ์เหล่านี้ มักจะมีความอ้วนมาตั้งแต่เด็ก เป็นเด็กจ้ำม่ำมาตั้งแต่วัยเด็กเลย แต่ไม่ต้องเสียใจไป เพราะไม่ได้หมายความว่าการที่เรามียีนที่ผิดปกติเหล่านี้ เราจะต้องอ้วนร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่จริง เนื่องจากว่ายังมีปัจจัยอีกหลาย ๆ อย่างที่มาควบคุมการแสดงออกของยีนเหล่านี้อยู่ เช่น ปัจจัยเรื่องของไลฟ์สไตล์ ปัจจัยเรื่องของฮอร์โมนบางชนิด ที่จะเปิดหรือปิดยีนเหล่านี้นั่นเอง แต่เพียงแต่ว่าคนที่มียีนกลายพันธุ์เหล่านี้อาจจะต้องใช้วินัยและความพยายามในการลดน้ำหนักมากกว่าคนอื่นก็เท่านั้นเอง

    ดังนั้น จะเห็นได้ว่ายีนก็มีบทบาทสำคัญในการลดน้ำหนัก การที่เราได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับยีนของตัวเอง ก็จะช่วยให้เราสามารถวางแผนการลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    2. ฮอร์โมนตัวร้าย ทำลายเป้าหมายลดน้ำหนักของคุณ

    ฮอร์โมนเปรียบเสมือนผู้กำกับวงออเคสตราในร่างกายเรา คอยควบคุมทุกอย่างให้ทำงานเป็นระบบ รวมถึงการเผาผลาญพลังงานและการสะสมไขมันด้วย ถ้าฮอร์โมนตัวไหนทำงานผิดปกติ ก็เหมือนกับนักดนตรีในวงเล่นไม่ตรงจังหวะ ทำให้เพลงออกมาเพี้ยน และส่งผลให้ระบบในร่างกายเราเสียสมดุลตามไปด้วย

    ฮอร์โมนหลักๆ ที่มีผลต่อน้ำหนัก

    • เลปติน (Leptin) : ฮอร์โมนที่บอกให้เรารู้สึกอิ่ม
    • เกรลิน (Ghrelin) : ฮอร์โมนที่กระตุ้นความหิว
    • อินซูลิน (Insulin): ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และเกี่ยวข้องกับการสะสมไขมัน
    • الكورتيزول (Cortisol) : ฮอร์โมนความเครียด ทำให้เราอยากกินของหวาน
    • ไทรอยด์ฮอร์โมน (Thyroid hormones) : ควบคุมการเผาผลาญพลังงาน
    • ฮอร์โมนเพศ (Sex hormones) : ฮอร์โมนเพศชายและฮอร์โมนเพศหญิง มีผลต่อการเผาผลาญ และการสร้างกล้ามเนื้อ

    สาเหตุที่ทำให้ฮอร์โมนเสียสมดุล

    • พันธุกรรม: บางคนอาจมีพันธุกรรมที่ทำให้ฮอร์โมนทำงานผิดปกติ
    • ไลฟ์สไตล์: การกินอาหารไม่เป็นเวลา การนอนไม่พอ ความเครียด การออกกำลังกายน้อย
    • โรคภัยไข้เจ็บ: โรคบางชนิด เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ เบาหวาน สามารถส่งผลต่อฮอร์โมนได้

    เมื่อฮอร์โมนเสียสมดุล จะส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น

    • หิวบ่อย: ฮอร์โมนเกรลินสูงเกินไป
    • อิ่มยาก: ฮอร์โมนเลปตินทำงานผิดปกติ
    • เผาผลาญช้า: ไทรอยด์ฮอร์โมนทำงานไม่ดี
    • อยากของหวาน: ฮอร์โมนคอร์ติซอลต่ำ

    ผลลัพธ์สุดท้ายคือ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และลดน้ำหนักได้ยาก ดังนั้น ฮอร์โมนมีบทบาทสำคัญในการควบคุมน้ำหนัก ถ้าฮอร์โมนไม่สมดุล การลดน้ำหนักก็จะยากขึ้น ดังนั้นการดูแลสุขภาพให้ดี การพักผ่อนให้เพียงพอ และการกินอาหารที่มีประโยชน์ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย

    3. ปรับสมดุลจุลินทรีย์ เพื่อลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น

    จุลินทรีย์ในลำไส้ มีหลากหลายชนิด แต่ละชนิดมีหน้าที่แตกต่างกัน บางชนิดช่วยให้เราเผาผลาญพลังงานได้ดี ในขณะที่บางชนิดอาจทำให้เราสะสมไขมันได้ง่ายขึ้น การปรับสมดุลของจุลินทรีย์จึงเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมน้ำหนักตัว

    ทำไมจุลินทรีย์ถึงเกี่ยวข้องกับความอ้วน?

    • จุลินทรีย์แต่ละชนิดมีหน้าที่ต่างกัน: มีการค้นพบว่า คนอ้วนมักมีจุลินทรีย์ชนิดหนึ่งชื่อ เฟอร์มิคิวทีส (Firmicutes) มากกว่าคนผอม ในขณะที่คนผอมมักมีจุลินทรีย์ชนิด แบคทีรอยดีทีส (Bacteroidetes) มากกว่า
    • จุลินทรีย์ช่วยย่อยอาหาร: จุลินทรีย์บางชนิดช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลอรี่จากอาหารได้ดีขึ้น ทำให้อ้วนง่ายขึ้น
    • จุลินทรีย์ส่งผลต่อฮอร์โมน: จุลินทรีย์บางชนิดอาจส่งผลต่อฮอร์โมนที่ควบคุมความหิว ทำให้เรารู้สึกอยากอาหารมากขึ้น

    จะเห็นว่า จุลินทรีย์ในลำไส้ มีผลต่อการเผาผลาญพลังงานและการสะสมไขมันในร่างกายของเรา หากเรามีจุลินทรีย์ชนิดที่ส่งเสริมการสะสมไขมันมากเกินไป ก็อาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้

    แล้วเราจะทำอย่างไรให้จุลินทรีย์ในลำไส้สมดุล?

    • กินอาหารที่มีใยอาหารสูง: อาหารที่มีใยอาหารสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช จะช่วยบำรุงจุลินทรีย์ดีในลำไส้
    • ทานโพรไบโอติกส์: โพรไบโอติกส์คือจุลินทรีย์ดีที่เราสามารถทานเข้าไป เพื่อช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ 
    • หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป: อาหารแปรรูปมีน้ำตาลและไขมันสูง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อจุลินทรีย์ในลำไส้

    ดังนั้นการเลือกทานالبروبيوتيكควรเลือกชนิดที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล เพราะจุลินทรีย์แต่ละชนิดมีประโยชน์แตกต่างกัน การตรวจสมดุลจุลินทรีย์จึงสำคัญ

    ใครบ้างที่เสี่ยงมีภาวะจุลินทรีที่ไม่สมดุล

    • คนที่ได้รับยาปฏิชีวนะ หรือยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเป็นประจำ
    • กินยาลดกรดในกระเพาะอาหาร ที่รักษาโรคแผลในกระเพาะอาหาร หรือยารักษาโรคกรดไหลย้อนเป็นประจำ
    • มีการกินยาต้านซึมเศร้า
    • กินอาหารแปรรูปเยอะ

    4. ทำไมขาดวิตามิน แร่ธาตุ ถึงทำให้อ้วน?

    ร่างกายของเราเปรียบเสมือนเครื่องจักรที่ต้องการพลังงานในการทำงาน ถ้าขาดอะไหล่สำคัญอย่าง วิตามินและแร่ธาตุ เครื่องจักรก็จะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ แร่ธาตุสังกะสี ทองแดง และซีลีเนียม 3 ตัวนี้สำคัญมาก เพราะช่วยให้ ไทรอยด์ฮอร์โมน ทำงานได้ดี

    ไทรอยด์ฮอร์โมน คือตัวควบคุมการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ถ้าไทรอยด์ฮอร์โมนทำงานไม่ดี พลังงานที่เรากินเข้าไปก็จะถูกสะสมเป็นไขมันแทนที่จะถูกเผาผลาญ ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นนั่นเอง

    ถ้าร่างกายของเราขาดวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ ร่างกายก็จะเผาผลาญพลังงานได้น้อยลง ทำให้เราอ้วนง่ายขึ้นนั่นเอง

    อยากลดน้ำหนัก ควรทำอย่างไร?

    • กินอาหารให้ครบ 5 หมู่: เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่เพียงพอ
    • ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร: ก่อนทานวิตามินเสริม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้คำแนะนำที่ถูกต้อง
    • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ช่วยเผาผลาญพลังงาน และกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ

    การทานวิตามินเสริมเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ช่วยให้ลดน้ำหนักลงได้ทันที การลดน้ำหนักต้องอาศัยความพยายามในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน และการออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย

    5. ยาบางชนิด ขัดขวางการลดน้ำหนัก

    เรื่องของการใช้ยาบางชนิดที่มีผลต่อความหิว ความอิ่ม และการเผาผลาญอาหารไปเป็นพลังงานโดยตรง เช่น ยาคุมกำเนิด ยาต้านซึมเศร้า และยานอนหลับ อาจมีผลข้างเคียงทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้

    ยาบางชนิดมีผลต่อน้ำหนักตัวอย่างไร?

    • ความอยากอาหาร: ยาบางชนิดอาจทำให้เรารู้สึกหิวบ่อยขึ้น หรืออิ่มช้าลง ทำให้กินอาหารมากขึ้นกว่าปกติ
    • ส่งผลต่อการเผาผลาญ: ยาบางชนิดอาจทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ช้าลง ส่งผลทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
    • สะสมน้ำ: ยาบางชนิดอาจทำให้ร่างกายเก็บน้ำไว้มากขึ้น ทำให้รู้สึกตัวหนักขึ้น

    ยาที่พบบ่อยและมีผลต่อน้ำหนัก

    • ยาคุมกำเนิด: บางสูตรอาจทำให้เกิดอาการบวมน้ำ หรือเพิ่มความอยากอาหาร
    • ยาต้านซึมเศร้า: ยาบางชนิดอาจทำให้เกิดอาการน้ำหนักเพิ่ม
    • ยานอนหลับ: ยาบางชนิดอาจทำให้เกิดอาการหิว
    • ยาเบาหวาน: ยาเบาหวานบางชนิด เช่น ยาอินซูลิน อาจทำให้เกิดอาการน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้

    ทำไมต้องใส่ใจเรื่องยาและน้ำหนัก?

    • ลดความผิดหวัง: เมื่อรู้ว่ายาที่เรากินมีผลต่อน้ำหนัก ก็จะได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอื่นๆ เพื่อชดเชย
    • ปรึกษาแพทย์: เพื่อหาทางแก้ไขปัญหา หรือเปลี่ยนยาที่ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงเรื่องน้ำหนักตัว
    • เพิ่มโอกาสในการลดน้ำหนัก: เมื่อควบคุมปัจจัยต่างๆ ได้ดี ก็จะลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น

    ยาที่เราทานเป็นประจำอาจมีผลต่อน้ำหนักตัวได้ ดังนั้น หากคุณกำลังมีปัญหาเรื่องการลดน้ำหนัก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสอบว่ายาที่คุณทานมีผลข้างเคียงหรือไม่ จะได้หาทางแก้ไขที่เหมาะสม

    สุดท้ายแล้ว فقدان الوزنจึงไม่ใช่แค่เรื่องของการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว แต่เราควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น พันธุกรรม ฮอร์โมน จุลินทรีย์ในลำไส้ และยาที่เรากินอยู่ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาและบรรลุเป้าหมายในการลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    فروع الخدمة

    • فرع مستشفى برارام 9
      • رقم الهاتف: 092-9936922
      • خط: @w9wellness
      • ساعات الافتتاح والإغلاق: 08.00 – 17.00.
    • فرع مركز بلونشيت
      • رقم الهاتف: 0994969626
      • خط: @wploenchit
      • ساعات الافتتاح والإغلاق: 10:00 صباحًا - 7:00 مساءً

    يشارك : 

    مقالات ذات صلة

    سرطان الكبد والقناة الصفراوية ويعتبر السرطان رقم 1 الأكثر شيوعا بين الذكور و

    لقد عرفنا منذ فترة طويلة أن فيتامين د هو فيتامين قابل للذوبان في الدهون. وتتمثل مهمتها الرئيسية في مساعدة الجسم على امتصاص معادن الكالسيوم والفوسفور من الطعام. يساعد في الحفاظ على توازن الكالسيوم في الدم

    فيتامين ب12 ضروري لإنتاج خلايا الدم الحمراء. عمل كل من الجهاز العصبي المركزي والمحيطي. ويلعب دوراً هاماً في عملية حرق الدهون والبروتين على المستوى الخلوي.

    خطأ: المحتوى محمي !!