睡够了,但还是觉得累。

睡眠充足却仍然感到疲倦?这说明你的身体可能正在发出维生素失衡的信号。

许多人一天伊始都怀着美好的愿望,睡足7-8个小时,但仍然感觉疲惫不堪。 “นอนครบแต่ยังล้า” ตื่นขึ้นมาเหมือนพลังงานยังไม่กลับมาเต็มที่ ร่างกายหนักหัว สมองอืด ตาไม่สดใส ทำงานได้ไม่นานก็ล้า ต้องพึ่งกาแฟแก้วที่สองภายในไม่กี่ชั่วโมง ทั้งที่พยายามดูแลตัวเองเท่าที่ทำได้ ออกกำลังกายบ้าง พยายามกินดี แต่มักรู้สึกว่าร่างกายไม่ตอบสนองเหมือนเมื่อก่อน

ความรู้สึกเหล่านี้ไม่ได้เป็นเรื่องเล็ก และไม่ได้แปลว่าร่างกายอ่อนแอหรือพักน้อยเสมอไป หลายครั้งเป็นสัญญาณลึก ๆ ว่า ระบบพลังงานภายในกำลังขาดความสมดุล โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ วิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารระดับเซลล์ ที่จำเป็นต่อการสร้างพลังงาน การฟื้นตัว และการทำงานของสมอง

ภาวะรูปแบบนี้เรียกว่า “พร่องวิตามินแบบแฝง” (Subclinical Micronutrient Deficiency)
เป็นภาวะที่ระดับวิตามินไม่ต่ำจนผิดปกติในการตรวจสุขภาพทั่วไป แต่ “ต่ำกว่าที่ร่างกายต้องการจริง” สำหรับการทำงานในชีวิตประจำวัน

งานวิจัยของ Harvard Health, Mayo Clinic และ Cleveland Clinic สอดคล้องกันว่า ความเครียดสูง การทำงานหนัก การสัมผัสแสงแดดน้อย รวมถึงอาหารสมัยใหม่ที่ผ่านกระบวนการมาก ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ระดับวิตามินสำคัญ “ค่อย ๆ ลดลงแบบเงียบ ๆ” จนกระทั่งร่างกายเริ่มส่งสัญญาณผ่านความล้า ฟื้นตัวช้า และความคิดที่ไม่สดเหมือนเดิม

ความล้าเรื้อรังจึงเป็นสัญญาณของบางอย่างที่ลึกกว่า ไม่ใช่แค่เรื่องการนอนหรือความเครียดเพียงอย่างเดียว

นอนครบแต่ยังล้า เมื่อระบบพลังงานต้องการมากกว่าชั่วโมงนอน

การพักผ่อนเพียงพอเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูพลังงาน ร่างกายยังต้องอาศัยสารอาหารเฉพาะเพื่อให้ทุกระบบประสานงานกันได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะระบบที่ใช้พลังงานสูง เช่น สมอง กล้ามเนื้อ หัวใจ และระบบภูมิคุ้มกัน

มีปัจจัยหลักที่ทำให้แม้นอนพอ ร่างกายยังรู้สึกล้า ได้แก่

睡够了,但还是觉得累。
  • ความเครียดสะสมที่กินพลังงานลึกกว่าที่คิด

ความเครียดทำให้ร่างกายใช้วิตามินกลุ่ม B และ Magnesium มากขึ้น เพื่อคงการทำงานของสมองและประสาท เมื่อร่างกายถูกกระตุ้นนานเกินไป ระดับสารอาหารเหล่านี้จึงพร่องลงอย่างรวดเร็ว

  • คุณภาพการนอนไม่ดี แม้จำนวนชั่วโมงจะพอ

การหลับไม่ลึกทำให้ฮอร์โมนฟื้นตัวไม่สมดุล มีผลต่อระดับ Vitamin D, Magnesium, CoQ10 และระบบพลังงานโดยรวม

  • ชีวิตในอาคารหรือแดดไม่เพียงพอ

มีผลโดยตรงต่อระดับ Vitamin D ซึ่งมีบทบาทต่อภูมิคุ้มกัน การสร้างพลังงาน และอารมณ์
งานวิจัยของ Harvard Health พบว่า ผู้ที่ทำงานในอาคารมีแนวโน้มระดับ Vitamin D ต่ำกว่าค่าเหมาะสมจำนวนมาก

  • การทำงานสมองหนักต่อเนื่อง

ไมโทคอนเดรียในสมองต้องการวิตามินหลายชนิด หากระดับลดลงแม้เล็กน้อยจะทำให้เกิดอาการ

  1. 大脑疲劳
  2. คิดช้าลง
  3. ตัดสินใจยาก
  4. ต้องใช้เวลามากกว่าปกติในการทำงานที่เคยง่าย
  • อาหารสมัยใหม่ที่ขาดความหลากหลาย

อาหารสำเร็จรูป น้ำตาลสูง เครื่องดื่มชูกำลัง และกาแฟหลายแก้วต่อวัน ล้วนส่งผลต่สมดุลสารอาหาร และทำให้ร่างกายใช้วิตามินเร็วขึ้น

เมื่อปัจจัยเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมกัน ร่างกายอาจเข้าสู่ภาวะ “พร่องแบบแฝง” ได้ง่าย และทำให้เกิดอาการล้าแม้นอนพอได้อย่างต่อเนื่อง

วิตามินและสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญต่อพลังงานและสมอง

ระบบพลังงานของร่างกายไม่ได้พึ่งแค่คาร์โบไฮเดรต ไขมัน หรือโปรตีน แต่ต้องการสารอาหารเฉพาะเพื่อให้กระบวนการสร้างพลังงานเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในไมโทคอนเดรีย ซึ่งเป็นแหล่งผลิตพลังงานของเซลล์

Vitamin B12 และ Folate ระบบประสาทและการสร้างพลังงาน

B12 และ Folate มีบทบาทสำคัญต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง การนำออกซิเจน และระบบประสาท
งานวิจัยใน Nutrients และ Mayo Clinic ระบุว่า ระดับต่ำสามารถทำให้เกิด

  • อาการล้า
  • หัวลอย
  • 手脚尖麻木
  • 情绪波动

ผู้ที่ไม่ทานเนื้อสัตว์เพียงพอ หรือใช้ยาลดกรดเรื้อรัง มีโอกาสพร่องมากขึ้น

  • Vitamin D ภูมิคุ้มกัน อารมณ์ และความสดชื่น

งานวิจัยแบบสุ่มควบคุม (RCT) หลายฉบับพบว่า การเสริม Vitamin D ในผู้ที่มีระดับต่ำ อาจช่วยลดอาการล้าในบางราย ผู้ที่ทำงานในอาคาร ออกแดดน้อย หรือมีสีผิวเข้มมักพบภาวะพร่องได้บ่อย

  • Magnesium: การนอนและความผ่อนคลาย

เกี่ยวข้องกับมากกว่า 300 กระบวนการในร่างกาย รวมถึงการทำงานของระบบประสาท กล้ามเนื้อ และการนอน Nutrients 2020 ชี้ว่า คนที่ขาดแมกนีเซียมมักมีปัญหานอนหลับไม่ลึก กล้ามเนื้อตึง และฟื้นตัวช้า

  • CoQ10: พลังงานระดับเซลล์

CoQ10 เป็น “เครื่องส่งผ่านพลังงาน” ในไมโทคอนเดรีย งานวิจัยบางฉบับพบว่า CoQ10 อาจช่วยสนับสนุนระดับพลังงานในบางผู้ที่มีอาการล้าเรื้อรัง โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ยากลุ่ม Statins ซึ่งมีผลต่อระดับ CoQ10

  • Glutathione: ระบบล้างสารพิษและการฟื้นตัว

เป็น antioxidant สำคัญที่สุดของร่างกาย ระดับต่ำสัมพันธ์กับการฟื้นตัวช้า ความล้าเรื้อรัง และภูมิคุ้มกันที่อ่อนลง งานวิจัยใน Clinical Nutrition สนับสนุนความสำคัญนี้อย่างชัดเจน

睡够了,但还是觉得累。

วิตามินและสารอาหารเหล่านี้ทำงานร่วมกันเป็น “เครือข่าย” ไม่ใช่แยกเดี่ยว การพร่องเพียงหนึ่งหรือสองชนิดจึงสามารถทำให้ระบบทั้งหมดเสียสมดุลได้

เหตุผลที่ทานวิตามินแล้วไม่ดีขึ้น แม้จะทานหลายตัว

หลายคนทานวิตามินมากมาย แต่ยังล้าเหมือนเดิมเพราะปัจจัยเหล่านี้

  1. ไม่ได้ทานตัวที่ร่างกายต้องการจริง : แต่ละคนมีความต้องการไม่เหมือนกัน การเดาสุ่มจึงอาจไม่ตรงกับต้นเหตุ
  2. ดูดซึมไม่ดี : ปัญหาลำไส้อักเสบ ภูมิแพ้อาหารแฝง หรือการใช้ยาบางชนิด ทำให้ดูดซึมวิตามินไม่เต็มที่
  3. การแข่งขันในการดูดซึมของวิตามินบางชนิด : เช่น Zinc กับ Copper หรือ Calcium กับ Magnesium หากทานไม่ถูกสัดส่วนจะทำให้ไม่เห็นผล
  4. ระดับที่เสริมไม่พอหรือเกินไป : ระบบพลังงานต้องการ “สมดุลที่พอดี” ไม่ใช่ยิ่งมากยิ่งดี นี่คือเหตุผลว่าทำไมแพทย์ด้านเวชศาสตร์ป้องกันจึงเน้น “การตรวจระดับจริง” ก่อนวางแผนปรับสมดุล

สัญญาณที่บอกว่าร่างกายอาจพร่องวิตามินแบบแฝง

แม้ระดับวิตามินจะไม่ผิดปกติในผลตรวจพื้นฐาน แต่การพร่องแบบแฝงสามารถทำให้เกิดอาการต่อไปนี้

  • 睡够了,但还是觉得累。
  • หลับไม่ลึก ตื่นมาไม่สดชื่น
  • ฟื้นตัวช้าแม้ออกกำลังกายเบา
  • สมาธิสั้นลง คิดช้าลง
  • ความจำลดลงในวันที่เหนื่อย
  • อารมณ์แกว่งง่าย
  • ป่วยง่ายกว่าปกติ
  • ผิวแห้งหรือหมองเร็ว
  • ปวดกล้ามเนื้อเฉียบ ๆ หรือกระตุก
  • หัวใจเต้นแรงเมื่อเครียด

หากอาการเหล่านี้เกิดซ้ำหรือเกิดร่วมกันหลายข้อ ควรตรวจระดับวิตามินแบบลึกเพื่อให้เห็นภาพจริงของระบบพลังงานภายใน

ทำไมการตรวจแบบ “องค์รวม” จึงสำคัญกว่าการตรวจทีละตัว

ระบบของร่างกายทำงานร่วมกันเป็นเครือข่าย วิตามินและสารอาหารจึงเชื่อมโยงกันหลายทาง
例如

睡够了,但还是觉得累。
  • B12 + Folate : ระบบประสาทและพลังงาน
  • Vitamin D + Magnesium : นอนลึกและภูมิคุ้มกัน
  • CoQ10 + B-complex : พลังงานระดับเซลล์
  • Glutathione + Selenium : ระบบล้างสารพิษ

การตรวจทีละสองสามรายการจึงอาจทำให้ “เห็นเฉพาะปลายเหตุ” แต่การตรวจแบบองค์รวมช่วยให้เห็นความสัมพันธ์ เช่น

  • ตัวไหนต่ำ
  • ตัวไหนสูง
  • ตัวไหนสมดุลดีแล้ว
  • ระบบพลังงานสะดุดตรงไหน
  • การนอนเกี่ยวกับระดับวิตามินไหม
  • ต้องปรับอาหารหรือเสริมอะไร

งานวิจัยของ EFSA Journal สนับสนุนหลักการนี้โดยระบุว่า การประเมินสถานะโภชนาการควรดูแบบครบระบบ ไม่ใช่แยกรายตัว

เมื่อไหร่ควรตรวจวิตามินแบบองค์รวม

เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่

  • ล้าเรื้อรังเกิน 4–8 สัปดาห์
  • นอนครบแต่ตื่นมาไม่สดชื่น
  • ทานวิตามินหลายตัวแต่ไม่เห็นผล
  • ใช้พลังงานสมองหนัก
  • ทำงานเปลี่ยนกะ
  • เครียดเรื้อรัง
  • ฟื้นตัวช้าหลังออกกำลังกาย
  • น้ำหนักขึ้นง่าย หรือผิวผมเปลี่ยนไป
  • ป่วยง่ายขึ้นกว่าปีก่อน

หากประสบอาการเหล่านี้ ร่างกายกำลังขอให้คุณ “หยุดและฟัง” ความต้องการที่ลึกกว่าเดิม

Checklist ประเมินตัวเองแบบง่าย ๆ

ลองสำรวจตนเองภายใน 1 เดือนที่ผ่านมา

  • ตื่นมาแล้วรู้สึกเหมือนยังไม่ได้นอน
  • ต้องการคาเฟอีนมากขึ้น
  • เหนื่อยง่ายกับงานที่เคยทำได้สบาย
  • หงุดหงิดง่ายกว่าปกติ
  • ผิวโทรมลงหรือผมร่วงมากขึ้น
  • ฟื้นตัวช้าหลังออกกำลังกาย
  • 手脚麻木
  • ป่วยง่ายหรืองานสะดุดเพราะสมองไม่ลื่น

หากมี 3 ข้อขึ้นไป เป็นไปได้ว่าระบบพลังงานต้องการการประเมินในระดับลึกกว่านี้

Q&A สิ่งที่คนค้นหาบ่อยที่สุด

  • ทำไมล้าแม้นอนพอ?

เพราะระบบพลังงานของร่างกายต้องการวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดเพื่อสร้างพลังงาน หากระดับเหล่านี้ลดลง แม้เพียงเล็กน้อย อาจทำให้ร่างกายสร้างพลังงานได้ไม่เต็มที่

  • ล้าเพราะเครียดต่างจากล้าเพราะพร่องวิตามินไหม?

ล้าที่มาจากความเครียดจะดีขึ้นเมื่อพัก แต่ล้าจากภาวะพร่องวิตามินมักเรื้อรังและไม่ดีขึ้นแม้พักผ่อนเพียงพอ

  • ตรวจวิตามินจำเป็นไหม?

จำเป็นเมื่อมีอาการล้าเรื้อรัง ฟื้นตัวช้า หรือทานวิตามินแล้วไม่ดีขึ้น เพราะต้องค้นหา “จุดที่พร่องจริง” ก่อนปรับสมดุล

  • ตรวจวิตามินอันตรายไหม?

ไม่อันตราย เป็นเพียงการเจาะเลือดเพื่อดูระดับสารอาหาร ไม่มีผลข้างเคียงที่น่ากังวล

  • ตรวจบ่อยแค่ไหน?

ส่วนใหญ่ทุก 6–12 เดือน หรือหลังปรับแผนสุขภาพครั้งใหญ่

总结

ความล้าแม้นอนพอเป็นสัญญาณที่ร่างกายส่งมาด้วยความหวังดี ว่า “พลังงานภายในกำลังต้องการการดูแลลึกขึ้น” หลายครั้งไม่ใช่เพราะพักน้อยหรือทำงานหนักเกินไป แต่เพราะระดับวิตามินสำคัญที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท การนอน การฟื้นตัว และระบบพลังงาน ลดลงแบบเงียบ ๆ จากการใช้ชีวิตยุคใหม่

การตรวจระดับวิตามินแบบองค์รวมจึงเป็นวิธีที่ช่วยให้เข้าใจร่างกายของตนเองได้ชัดเจนที่สุด เมื่อรู้ว่าต้นเหตุอยู่ตรงไหน ก็สามารถปรับสมดุลให้ตรงจุด และให้ร่างกายกลับมามีพลังอีกครั้งในแบบที่เป็นธรรมชาติที่สุด

帕蒙库特克劳医院(A栋3楼)

  • 电话号码:092-9936922
  • 线: @w9wellness
  • 开放至关闭时间:08:00 – 17:00

撰写和编辑

再见医生

Pichak Wongwisit 博士(白博士)

抗衰老和预防医学医生
W9 健康中心

参考

  1. Nutrients. Vitamins and minerals in energy and fatigue. 2020.
    URL: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7019700/
  2. Harvard Health Publishing. Vitamin D and your health.
    URL: https://www.health.harvard.edu/staying-healthy/vitamin-d-and-your-health
  3. PubMed. Vitamin D supplementation and fatigue. Randomized controlled trial, 2014.
    URL: https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/25098524/
  4. Mayo Clinic. Vitamin B12 deficiency.
    URL: https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/vitamin-b12-deficiency
  5. Harvard Health Publishing. Fatigue: causes and treatments.
    URL: https://www.health.harvard.edu/diseases-and-conditions/fatigue-causes-and-treatments
  6. Cleveland Clinic. Magnesium and sleep.
    URL: https://health.clevelandclinic.org/magnesium-and-sleep
  7. Nutrients. Magnesium intake and sleep quality. 2020. PubMed.
    URL: https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/32244456/
  8. BioFactors. Coenzyme Q10 in chronic fatigue syndrome. 2014. PubMed.
    URL: https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/24673698/
  9. Clinical Nutrition. Glutathione status and fatigue / immune function. 2019.
    URL: https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S0261561419302563
  10. World Health Organization (WHO). Micronutrient deficiencies.
    URL: https://www.who.int/health-topics/micronutrients
  11. European Food Safety Authority (EFSA). Assessment of nutritional status and micronutrient intake.
    URL: https://www.efsa.europa.eu
  12. Mayo Clinic. Fatigue – symptoms and causes.
    URL: https://www.mayoclinic.org/symptoms/fatigue

分享 : 

相关文章

“我想怀孕,为什么不怀孕?相信很多家长都失去了理智。”如果一定要比较的话,就像这句话: “我孩子的手臂不能踢,浪费了十万块钱。”

相信很多人都听说过“碱水”的功效。它可以降低患癌症和痛风的风险

失眠是另一个可能发生在任何人、任何性别、任何年龄的问题。一般人的失眠症状有1-2种。