คุณรู้ไหมว่าคนวัยทำงานคือกลุ่มที่สูบบุหรี่มากที่สุดในประเทศ? และแม้คุณจะสูบแค่วันละไม่กี่มวน แต่ “ผลเสียของบุหรี่ในวัยทำงาน” กำลังค่อย ๆ ทำลายร่างกายของคุณแบบไม่รู้ตัว บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ ผลกระทบลึก ๆ ที่บุหรี่สร้างไว้กับทั้งผู้ชายและผู้หญิงวัยทำงาน พร้อมแนวทางดูแลตัวเองแบบเข้าใจคนที่ “ยังเลิกไม่ได้” แต่พร้อมจะเริ่มฟื้นฟูร่างกาย
คุณเป็นคนหนึ่งที่อยากเลิกบุหรี่ แต่ก็ยังทำไม่ได้ใช่ไหม? คุณรู้ดีว่าบุหรี่ทำลายสุขภาพ แต่การจะก้าวผ่านความเคยชินและแรงปรารถนาในนิโคตินนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อย่างไรก็ตาม การเลิกบุหรี่นั้น “ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้” และทุกวันนี้ “หัวใจ” กับ “หลอดเลือด” ของคุณอาจกำลังพังแบบเงียบ ๆ ตั้งแต่มวนแรกที่จุดสูบในแต่ละวัน
สถานการณ์การสูบบุหรี่ในกลุ่มวัยทำงานน่ากังวลกว่าที่คิด
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติและแผนงานควบคุมการบริโภคยาสูบ พบว่า กลุ่มคนอายุ 25-59 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงาน มีอัตราการสูบบุหรี่สูงที่สุดในประชากรไทย โดยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 23.5 และล่าสุดในปี 2566 รายงานสุขภาพคนไทยระบุว่า 1 ใน 5 ของคนวัยทำงานสูบบุหรี่ทุกวัน
ที่น่าเป็นห่วงคือ อัตราการสูบบุหรี่ในเพศชายสูงกว่าเพศหญิงอย่างมาก โดยผู้ชายสูบบุหรี่มากกว่าผู้หญิงประมาณ 18-20 เท่า และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นของนักสูบหน้าใหม่ปีละ 2-3 แสนคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาการสูบบุหรี่ในวัยทำงานไม่ใช่เรื่องไกลตัว และกำลังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนจำนวนมากในประเทศ
เลิกบุหรี่ ทำไมถึงยากและอันตรายแค่ไหน?
หลายคนรู้ว่าการสูบบุหรี่ไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ก็ยังเลิกไม่ได้ บางคนอาจคิดว่าร่างกายยังไหว หรือแค่สูบไม่กี่มวนก็ไม่เป็นอะไร ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นความเข้าใจผิด เพราะ นิโคติน ในบุหรี่เป็นสารกระตุ้นที่ทำให้รู้สึกตื่นตัวและผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังไปกระตุ้นการหลั่ง โดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขที่ทำให้เกิดการเสพติด ทำให้หยุดไม่ได้ คล้ายกับการติดเกม ติดเหล้า หรือติดพนัน
ผลกระทบต่อสุขภาพที่บุหรี่สร้างขึ้นกับร่างกายของคุณ
การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคถุงลมโป่งพอง และมะเร็งปอด ผลกระทบเหล่านี้เกิดขึ้นกับทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่ในรายละเอียดอาจแตกต่างกันไปตามเพศ นี่คือตัวอย่าง ผลเสียของบุหรี่ในวัยทำงาน ที่ไม่ควรมองข้าม
ผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ชาย
การสูบบุหรี่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ชาย
- ปัญหาหลอดเลือด: นิโคตินทำให้หลอดเลือดหดตัวทันทีที่สูบ ส่งผลให้ความดันโลหิตพุ่งสูงขึ้นและหัวใจเต้นเร็ว เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดเฉียบพลัน แม้สูบแค่วันละ 1-2 มวน ก็ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจวายมากกว่าคนที่ไม่สูบอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ บุหรี่ยังมีโลหะหนักสูงมาก โดยเฉพาะแคดเมียมและตะกั่ว ซึ่งทำให้หลอดเลือดแข็งตัว ส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะต่างๆ
- ปัญหาฮอร์โมนเพศชาย: การสูบบุหรี่กระตุ้นการทำงานของต่อมหมวกไตและเพิ่มระดับคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) อย่างต่อเนื่อง เมื่อต่อมหมวกไตล้า อาจส่งผลกระทบต่อการผลิตฮอร์โมนเพศชายได้ นอกจากนี้ สารเคมีระเหยต่างๆ โดยเฉพาะ Polynuclear Aromatic Hydrocarbons (PAHs) จะรบกวนฮอร์โมนเพศชายโดยตรง ทำให้ระดับฮอร์โมนลดลง ส่งผลต่อคุณภาพของอสุจิและการมีบุตรยาก
- ปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศ (ED): นี่คือปัญหาที่ผู้ชายหลายคนกังวล เกิดจากการที่หลอดเลือดถูกทำลายและฮอร์โมนเพศชายลดลง ทำให้แข็งตัวได้ไม่เต็มที่ แข็งตัวไม่นาน หรือไม่อยากมีเพศสัมพันธ์
- บุหรี่ทำลายหลอดเลือดเล็ก (Microvascular Damage): อวัยวะเพศชายต้องใช้การไหลเวียนเลือดที่ดีเพื่อให้แข็งตัวเต็มที่ นิโคตินและสารพิษในบุหรี่ทำให้หลอดเลือดหดตัวและแข็งขึ้น การแข็งตัวจึงลดลง ทั้งความแข็งและระยะเวลา เคยมีงานวิจัยพบว่า ผู้ชายที่สูบบุหรี่มีความเสี่ยงเป็นภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) สูงขึ้นถึง 50-60%
- ลดการสร้างฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone): นิโคตินรบกวนระบบฮอร์โมน ทำให้การผลิตเทสโทสเทอโรนลดลง ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับความต้องการทางเพศ ส่งผลให้ความรู้สึกอยากลดลง เหนื่อยง่าย ไม่มีอารมณ์
- เร่งการแก่ของระบบสืบพันธุ์: บุหรี่เพิ่มการเกิดอนุมูลอิสระ ทำลายเซลล์ กระทบทั้งการแข็งตัว คุณภาพน้ำเชื้อ และสุขภาพต่อมลูกหมากในระยะยาว
สัญญาณเตือนจากร่างกาย
สัญญาณ | ความหมาย |
แข็งตัวไม่เต็มที่ | ระบบไหลเวียนเริ่มมีปัญหา |
แข็งตัวได้ไม่นาน | เส้นเลือดไม่สามารถรักษาความดันได้ |
ไม่รู้สึกอยาก | เทสโทสเทอโรนต่ำ หรือสมองเหนื่อยล้า |
รู้สึกอ่อนแรง หลังการมีเพศสัมพันธ์ | ร่างกายใช้พลังงานมากเกินไปจากระบบที่อ่อนแอ |
ผลกระทบต่อสุขภาพของผู้หญิง
แม้ผู้หญิงจะมีอัตราการสูบบุหรี่น้อยกว่าผู้ชาย แต่ผลกระทบต่อสุขภาพกลับรุนแรงไม่แพ้กัน และในบางโรคอาจรุนแรงกว่าผู้ชายด้วยซ้ำ
- ผิวพรรณ: ผิวเหี่ยวย่น แห้งกร้าน และถูกทำลายจากรังสียูวีได้ง่ายขึ้น ทำให้แก่ก่อนวัย ริ้วรอยมาเร็วขึ้น ผู้หญิงที่สูบบุหรี่จะ “หน้าแก่” ไวกว่าผู้หญิงไม่สูบประมาณ 10 ปี
- ระบบฮอร์โมนแปรปรวน: นิโคตินและสารพิษในบุหรี่รบกวนการทำงานของฮอร์โมนเพศหญิง (เอสโตรเจน) ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ รอบเดือนสั้นลง หรือมีอาการ PMS รุนแรงขึ้น เพิ่มความเสี่ยงวัยทองก่อนวัย (Menopause ก่อนอายุ 45)
- การมีบุตรยาก: คุณภาพของไข่ลดลง ทำให้โอกาสตั้งครรภ์ลดลง เพิ่มความเสี่ยงแท้ง และภาวะมีบุตรยาก (หากตั้งครรภ์แล้วสูบจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเด็กน้ำหนักน้อย แท้ง คลอดก่อนกำหนด)
- กระดูกบาง เสี่ยงกระดูกพรุนเร็ว: การสูบบุหรี่ทำให้การดูดซึมแคลเซียมลดลง (เมื่อเอสโตรเจนลดลงเร็ว จึงเพิ่มความเสี่ยง “กระดูกบาง” เร็วกว่าปกติ)
- มะเร็งในผู้หญิง: เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งปอดมากกว่าผู้หญิงไม่สูบ แม้จะสูบแค่วันละ 1-2 มวน ก็เสี่ยงแล้ว
- สำหรับผู้หญิงวัยทำงาน การสูบบุหรี่ส่งผลให้อวัยวะภายในและภายนอกแก่ก่อนวัยเฉลี่ย 10 ปี
- เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอดมากกว่าผู้ไม่สูบบุหรี่ 10 เท่า
- เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก 4 เท่า และมะเร็งเต้านมร้อยละ 25
- เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด หัวใจล้มเหลว และหัวใจวายกะทันหัน
- ผู้หญิงที่สูบบุหรี่และใช้ยาคุมกำเนิดมีความเสี่ยงเส้นเลือดหัวใจตีบหรือหัวใจวายสูงขึ้น 39 เท่า และเสี่ยงตายมากกว่าผู้ไม่สูบบุหรี่ที่กินยาคุมกำเนิดถึง 3 เท่า
สารเคมีอันตรายในบุหรี่ PAHs ตัวร้ายที่คุณต้องรู้จัก
นอกเหนือจากนิโคตินแล้ว บุหรี่ยังอัดแน่นไปด้วยสารเคมีอันตรายอีกมากมายที่ทำลายสุขภาพของคุณ หนึ่งในนั้นคือ PAHs (Polycyclic Aromatic Hydrocarbons) ซึ่งเป็นกลุ่มสารก่อมะเร็งกลุ่ม 1 ที่องค์การอนามัยโลกจัดให้เป็นสารอันตรายสูงสุด เมื่อ PAHs เข้าสู่ร่างกาย จะเข้าไปจับกับ DNA ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ นำไปสู่การเกิดมะเร็งร้ายแรงหลายชนิด เช่น มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ และมะเร็งตับ
此外 PAHs ยังทำลายระบบสืบพันธุ์โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการลดจำนวนอสุจิในผู้ชาย หรือทำลายคุณภาพของไข่ในผู้หญิง ที่สำคัญคือ สารเหล่านี้ยังเร่งให้เกิดการสะสมของไขมันในหลอดเลือดและทำให้หลอดเลือดแข็งตัว ส่งผลให้คุณมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดเฉียบพลันได้ตลอดเวลา
บุหรี่ไฟฟ้าดีกว่าบุหรี่มวนจริงหรือ? อย่าเข้าใจผิด!
หลายคนอาจคิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน แต่แท้จริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่ไฟฟ้า หรือบุหรี่มวน ล้วนส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งสิ้น และไม่มีทางเลือกใดที่ปลอดภัย 100% ผลเสียของบุหรี่ในวัยทำงาน ไม่ได้จำกัดอยู่แค่บุหรี่แบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงบุหรี่ไฟฟ้าด้วยเช่นกัน
- บุหรี่มวน: นอกจากนิโคตินแล้ว ยังมีสารเคมีอันตรายอื่นๆ เช่น ทาร์ (Tar) และคาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide) ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำลายเยื่อบุหลอดเลือดและปอด ลดภูมิคุ้มกันของร่างกาย และเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อในช่องปากและทางเดินหายใจ
- บุหรี่ไฟฟ้า (E-Cigarettes): แม้จะไม่มีการเผาไหม้ แต่ก็ยังคงมีนิโคตินในปริมาณสูง ทำให้เกิดการเสพติดได้ไม่ต่างกัน นอกจากนี้ยังมีสารก่อมะเร็งอื่นๆ เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde), สารระคายเคืองอย่างอะโครลีน (Acrolein), และโลหะหนักต่างๆ เช่น ตะกั่ว, นิกเกิล, โครเมียม. สารเหล่านี้ส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจและระบบหัวใจและหลอดเลือดอย่างรุนแรง และยังเพิ่มความเสี่ยงของภาวะปอดอักเสบเฉียบพลัน (EVALI) ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต และมะเร็งปอดได้
เริ่มต้นดูแลตัวเองและเลิกบุหรี่วันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
การเลิกบุหรี่อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การเริ่มต้นดูแลตัวเองและทำความเข้าใจผลกระทบที่เกิดขึ้น จะเป็นก้าวสำคัญสู่การมีสุขภาพที่ดีขึ้น หากคุณยังไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้ในทันที หรือต้องการดูแลสุขภาพควบคู่ไปกับการลด ละ เลิก คุณสามารถทำตามแนวทางเหล่านี้
- ลดปริมาณการสูบ: ค่อย ๆ ลดจำนวนมวนที่สูบต่อวัน การตั้งเป้าหมายที่ทำได้จริงจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในระยะยาว
- หาสารทดแทนนิกโคติน: การเคี้ยวหมากฝรั่งนิโคติน หรือใช้แผ่นแปะนิโคติน เป็นทางเลือกที่ดี เพราะคุณจะได้รับแค่นิโคตินโดยไม่มีสารพิษอื่นๆ เหมือนบุหรี่มวน หรือลองดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ หรือชาเขียว (มัทฉะ) เพื่อช่วยลดอาการอยากและให้ความรู้สึกสดชื่น
- 锻炼: การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการหลั่งสารแห่งความสุขอย่างโดปามีนและเอนดอร์ฟิน ทำให้รู้สึกดี มีความสุข และช่วยลดความอยากบุหรี่ได้ การออกกำลังกายสม่ำเสมอยังช่วยฟื้นฟูระบบไหลเวียนเลือดและปอดให้กลับมาทำงานได้ดีขึ้น
- ดูแลสุขภาพโดยรวม: ควบคู่ไปกับการลด ละ เลิกบุหรี่ ควรดูแลสุขภาพด้านอื่นๆ ด้วย เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเน้นผักผลไม้และอาหารต้านอนุมูลอิสระ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และจัดการความเครียดด้วยวิธีที่เหมาะสม เช่น การทำสมาธิ หรือโยคะ
- ตรวจสุขภาพเพื่อประเมินความเสียหาย: หากคุณกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น สามารถพิจารณาการตรวจสุขภาพเชิงลึก
- การตรวจหาสารพิษและโลหะหนัก
- ตรวจหาสารพิษในปัสสาวะ (Urine Organic Acids): เพื่อดูว่าสารพิษจากบุหรี่รบกวนกระบวนการสร้างพลังงานในระดับเซลล์มากน้อยเพียงใด และเซลล์ของคุณถูกทำลายไปแค่ไหน
- ตรวจโลหะหนักในเลือด (Toxic Heavy Metal): เพื่อประเมินว่าร่างกายสะสมโลหะหนักอันตรายจากบุหรี่ เช่น แคดเมียมและตะกั่ว ไว้มากน้อยแค่ไหน
- ตรวจ Oligoscan: เป็นการตรวจวิเคราะห์ปริมาณแร่ธาตุและโลหะหนักในร่างกายอย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยให้คุณรู้ว่าร่างกายขาดสารอาหารอะไรบ้าง หรือมีสารพิษสะสมอยู่มากน้อยแค่ไหน
- ตรวจระดับฮอร์โมน (Hormone Balance): เพื่อดูผลกระทบต่อฮอร์โมนเพศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของผู้ชายและผู้หญิง
- การทำคีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy): หากพบว่ามีโลหะหนักสะสมในร่างกาย การทำคีเลชั่นบำบัดเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยในการขับสารพิษออกจากหลอดเลือด ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การเลิกบุหรี่ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่เกินความสามารถ หากคุณเริ่มต้นจากความเข้าใจร่างกายตัวเองอย่างแท้จริง เพราะทุกการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ล้วนมีความหมายต่อสุขภาพระยะยาว ทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน
ที่ W9 Wellness เราเชื่อในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม หากคุณต้องการคำแนะนำในการฟื้นฟูร่างกาย หรือตรวจเชิงลึกเพื่อประเมินผลกระทบจากการสูบบุหรี่ เราทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำคุณได้อย่างตรงจุด
服务网点
- Praram 9 医院分院
- 电话号码:092-9936922
- 线: @w9wellness
- 开放至关闭时间:08:00 – 17:00
- 奔集中心分行
- 电话号码:099-4969626
- 线: @wploenchit
- 开放至关闭时间:上午 10:00 至晚上 7:00
参考
- https://www.bmj.com/content/360/bmj.j5855
- https://journals.lww.com/hrtv/fulltext/2011/12010/smoking_effect_on_ischemic_heart_disease_in_young.1.aspx
- https://www.hfocus.org/content/2021/04/21331
- https://www.thaihealth.or.th/เมื่อผู้หญิงสูบบุหรี่จ/
- https://hed.hss.moph.go.th/wp-content/uploads/2024/06/การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการสูบบุหรี่สำหรับวัยทำงาน.pdf
- https://www.hfocus.org/content/2024/03/29947