ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก หลายคนอาจกำลังเผชิญกับภาวะ “Digital Overload” หรือการรับข้อมูลที่มากเกินไปจากสื่อออนไลน์โดยไม่รู้ตัว เราถูกห้อมล้อมด้วยเทคโนโลยีตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน โซเชียลมีเดีย หรือ AI ที่ช่วยจัดการชีวิตให้เราสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่ทำไมหลายครั้งเรากลับรู้สึกว่าตัวเองกลับไม่ค่อยมีเวลาและก็รู้สึกไม่ค่อยมีความสุขเหมือนแต่ก่อน นี่จึงเป็นเหตุผลที่แนวคิด Analog Wellness กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะเป็นการกลับไปใช้ชีวิตแบบสมดุล ลดการพึ่งพาเทคโนโลยี และให้เวลากับตัวเองมากขึ้น เพื่อฟื้นฟูสุขภาพกายและใจให้แข็งแรงอย่างแท้จริง
จากผลสำรวจสุขภาวะทางดิจิทัล ปี 2567 พบว่าคนส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่กับอุปกรณ์ดิจิทัล 8-10 ชั่วโมงต่อวัน โดยเฉพาะการเสพข่าวสารดราม่าที่ก่อให้เกิดความเครียด ซึ่งนำไปสู่ปัญหาสุขภาพทั้งกายและจิตใจ
- สุขภาพจิต: การเสพข่าวสารมากเกินไป (Dooms Crolling) ทำให้สมองหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) มากขึ้น เกิดอาการวิตกกังวล ซึมเศร้า และนอนไม่หลับ ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิตระบุว่า ในปีที่ผ่านมา คนไทยเสี่ยงป่วยซึมเศร้าเพิ่มขึ้น 17.2% และมีความเครียดสูงถึง 15.48%
- ปัญหานอนไม่หลับ: ผลสำรวจล่าสุดพบว่า 30-40% ของคนไทย (ประมาณ 19 ล้านคน) มีปัญหานอนไม่หลับ เนื่องจากสมองเหนื่อยล้าจากการเสพข้อมูลข่าวสารตลอดเวลา
- ผลกระทบอื่นๆ: การติดเทคโนโลยีที่มากเกินไปยังส่งผลให้จิตใจว้าวุ่น ขาดสมาธิ ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง และความสัมพันธ์กับคนรอบข้างแย่ลง
ปัญหาเหล่านี้ทำให้หลายคนเริ่มหันกลับมาใส่ใจดูแลสุขภาพจิตของตัวเองกันมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงหรือความรุนแรงของอาการซึมเศร้า จนกลายเป็นเทรนด์ฮิตของปี 2025, Analog Wellness หรือ Digital Detox ที่เริ่มมีการพูดถึงอย่างแพร่หลายในขณะนี้
Analog Wellness คืออะไร
คือแนวทางในการคืนสมดุลให้ร่างกายและจิตใจโดยลดการพึ่งพาเทคโนโลยีและหันมาใช้ชีวิตแบบธรรมชาติ เช่น การทำ Digital Detox การทำสมาธิ กิจกรรมกลางแจ้ง และการดูแลสุขภาพองค์รวม
ในปี 2025, Analog Wellness หรือ “Digital Detox” กลายเป็นเทรนด์สุขภาพที่กำลังเติบโตทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ผู้คนเริ่มตระหนักถึงผลกระทบจากการใช้งานเทคโนโลยีที่มากเกินไป หรือที่เรียกว่า “Digital Overload” ที่ทำให้เกิดความเครียดและความเหนื่อยล้า จนไม่สามารถประมวลผลและจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น
ผลกระทบของ Digital Overload ต่อสุขภาพ
ผลกระทบต่อสุขภาพกาย
- ระบบประสาท: การได้รับแสงสีฟ้าจากหน้าจอเป็นเวลานานส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน ทำให้เกิดปัญหานอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท (Insomnia) นอกจากนี้ ยังอาจทำให้เกิดอาการปวดตา ปวดหัว ไมเกรน และปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณคอ บ่า และไหล่ (Office Syndrome)
- ระบบย่อยอาหาร: ความเครียดจาก Digital Overload ส่งผลต่อการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องผูก หรือลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome: IBS) หรือที่หลายคนคุ้นชินกับคำว่า เครียดลงกระเพาะ
- Immune system: ความเครียดเรื้อรังส่งผลต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายอ่อนแอและเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น อาจจะลองหมั่นเช็กสัญญาณเตือนภูมิคุ้มกันต่ำ ได้ด้วยตนเอง
ผลกระทบต่อสุขภาพจิต
- ความเครียดและความวิตกกังวล: การได้รับข้อมูลข่าวสารที่มากเกินไป การเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นบนโซเชียลมีเดีย และความกดดันจากการทำงานหรือการเรียน ส่งผลให้เกิดความเครียดและความวิตกกังวลได้ง่าย โดยเฉพาะข่าวที่หดหู่มากๆ ในสมัยนี้อาจเสี่ยงเป็นภาวะ Headline Stress Disorder can
- ภาวะซึมเศร้า: ความรู้สึกโดดเดี่ยว การขาดปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น และความรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้
- สมาธิสั้น: การได้รับสิ่งเร้าจากเทคโนโลยีดิจิทัลอยู่ตลอดเวลา ทำให้สมาธิสั้นลงและจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ยากขึ้น
ผลกระทบเหล่านี้ทำให้หลายคนเริ่มหันมาย้อนกลับสู่โลกอะนาล็อก หรือ “Digital Detox” การกลับไปสู่ชีวิตที่เรียบง่าย ลดการพึ่งพาเทคโนโลยี และมุ่งเน้นการดูแลตัวเองด้วยวิธีธรรมชาติ เพื่อฟื้นฟูจิตใจและสมดุลร่างกาย
5 กิจกรรม Analog Wellness ยอดนิยม
- การทำสมาธิและโยคะ: หลายคนหันมาทำสมาธิและฝึกโยคะเพื่อลดความเครียดจากการใช้เทคโนโลยี การฝึกโยคะและการทำสมาธิช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลายจากความวุ่นวายรอบตัว
- กิจกรรมกลางแจ้ง: การกลับไปสัมผัสธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของการย้อนกลับสู่โลกอะนาล็อก เช่น การเดินเล่นในธรรมชาติ การปีนเขา หรือการแคมป์ปิ้ง ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังช่วยให้จิตใจผ่อนคลายจากการหยุดพักใช้งานจากเทคโนโลยี
- ร้านหนังสือและการอ่าน: ในญี่ปุ่น กระแสการกลับไปอ่านหนังสือเล่มแบบดั้งเดิมได้รับความนิยมมากขึ้น ร้านหนังสือหลายแห่งออกแบบให้มีบรรยากาศสงบและเหมาะแก่การอ่าน กลายเป็นสถานที่พักผ่อนให้ถอยห่างออกจากโลกดิจิทัล
- งานอดิเรกและงานฝีมือ: การทำงานอดิเรก เช่น การวาดภาพ การถักไหมพรม หรือการทำอาหาร เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลาย
- การเล่นดนตรี: การเล่นดนตรีเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายและลดความเครียดได้เป็นอย่างดี
Digital Detox ก้าวแรกสู่การเยียวยาจิตใจและร่างกาย
doing Digital Detox คือการออกจากโลกดิจิทัลชั่วขณะ เพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ เราสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการ
- ตั้งเวลาหยุดใช้สมาร์ตโฟน: หยุดใช้โทรศัพท์ 1 ชั่วโมงต่อวัน และค่อยๆ เพิ่มเวลา
- ใช้โทรศัพท์ที่ไม่มีฟังก์ชันโซเชียลมีเดีย: ช่วยลดการถูกรบกวนจากการแจ้งเตือน
- ทำกิจกรรมที่ไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยี: อ่านหนังสือ สนทนากับเพื่อน หรือออกไปเดินเล่นในธรรมชาติ
อะนาล็อกเวลเนส ในประเทศไทยที่ผ่านมา หลายคนเริ่มหันมาหากิจกรรมที่ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี เช่น การทำสมาธิในวัด การเดินเล่นในสวนสาธารณะ หรือการไปเที่ยวชุมชนท่องเที่ยวที่เน้นการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ เช่น การเดินป่า การไปสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น หรือการหาความสงบจากการทำอาหารที่บ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยให้เราลดและเว้นว่างจากการใช้งานเทคโนโลยีได้
Analog Wellness Trends 2025 การกลับมาของความเรียบง่าย
การเยียวยาจิตใจในยุคดิจิตอล คือการทำกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ซึ่งมุ่งเน้นการฟื้นฟูและปรับสมดุลให้กับร่างกายและจิตใจ ในยุคดิจิตอลที่เราถูกครอบงำด้วยการเชื่อมต่อออนไลน์ตลอดเวลา การกลับไปสู่ธรรมชาติและการทำกิจกรรมแบบ อะนาล็อกเวลเนส จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยเติมเต็มจิตใจและสมดุลร่างกาย ซึ่งแต่ละกิจกรรมมีประโยชน์เฉพาะด้าน ดังนี้
วิธีการดูแลสุขภาพแบบอะนาล็อกเวลเนส
1. Forest Bathing
- ประโยชน์ต่อสุขภาพ:
- Forest Bathing หรือการเดินในป่าช่วยให้ร่างกายได้รับการฟื้นฟูโดยธรรมชาติ ผ่านการสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ซึ่งมีการศึกษาเผยว่าการอาบป่าสามารถกระตุ้นการผลิต NK cells (Natural Killer Cells) ซึ่งเป็นเซลล์ที่ช่วยป้องกันมะเร็งและเชื้อโรคในร่างกาย
- ช่วยลดการทำงานของฮอร์โมนความเครียด (Cortisol) และช่วยปรับสมดุลการเต้นของหัวใจ รวมถึงช่วยควบคุมความดันโลหิต
- ประโยชน์จิตใจ: การสัมผัสธรรมชาติช่วยลดความเครียดและภาวะซึมเศร้า ทำให้จิตใจสงบและผ่อนคลาย
- อ้างอิง: https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov
2. Sound Bath
- ประโยชน์ต่อสุขภาพ:
- Sound Bath ใช้เสียงและคลื่นความถี่ที่เกิดจากเครื่องดนตรีเช่น กลอง, โป๊ะ, หรือเสียงน้ำที่มีความถี่เฉพาะเพื่อช่วยปรับสมดุลพลังงานในร่างกาย เสียงที่ตรงกับความถี่ของร่างกายสามารถช่วยให้ระบบประสาทสงบ และลดความเครียดได้
- ประโยชน์จิตใจ: เสียงที่สร้างขึ้นในการทำ Sound Bath ช่วยให้ผู้ทำกิจกรรมอยู่ในสภาวะสมาธิและผ่อนคลาย จิตใจได้เข้าสู่ภาวะสงบ ลดความวิตกกังวล และมีความรู้สึกหลุดพ้นจากความคิดที่วุ่นวาย
- อ้างอิง www.psychologytoday.com
- www.forbes.com
3. Ice Bath
- ประโยชน์ต่อสุขภาพ:
- การแช่น้ำแข็งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการอักเสบ และช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังจากการออกกำลังกายหนัก การอาบน้ำเย็นยังช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อและเพิ่มความทนทานของร่างกาย
- ประโยชน์จิตใจ: การเผชิญกับความหนาวเย็นทำให้จิตใจสามารถท้าทายตัวเองได้ และเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเอง ทำให้รู้สึกพึงพอใจหลังจากการผ่านประสบการณ์ที่ยากลำบาก
- อ้างอิง www.marquette.edu
- Precautions: แม้ว่าการแช่น้ำเย็นจะมีประโยชน์ แต่การวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่าผลประโยชน์อาจขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่สัมผัสกับความเย็น และอาจมีการเพิ่มการอักเสบทันทีหลังการแช่ ดังนั้นควรพิจารณาและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนการทำกิจกรรมนี้
- อ้างอิง www.theguardian.com
4. Breathwork
- ประโยชน์ต่อสุขภาพ:
- Breathwork หรือการฝึกหายใจลึกๆ ช่วยเพิ่มออกซิเจนในร่างกาย ลดความเครียด และช่วยฟื้นฟูการทำงานของระบบประสาท การหายใจลึกยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบทางเดินหายใจและทำให้ร่างกายปลอดโปร่ง
- ประโยชน์จิตใจ: ช่วยให้ผู้ฝึกหายใจเข้าสู่สภาวะสมาธิ ลดความวิตกกังวล และเพิ่มความรู้สึกสงบในจิตใจ โดยการควบคุมลมหายใจสามารถช่วยลดอาการเครียดและปรับสมดุลอารมณ์ได้
- อ้างอิง www.breathinspired.com
5. Dirty Wellness
- ประโยชน์ต่อสุขภาพ:
- ช่วยให้มีความยืดหยุ่นในการดูแลสุขภาพ โดยไม่ต้องเข้มงวดตลอดเวลา ช่วยลดความเครียดจากการกดดันที่ต้องทำตามแผน และสามารถสนุกกับชีวิตได้โดยไม่รู้สึกผิด
- ประโยชน์จิตใจ: ยอมรับในความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเอง และสนุกกับกิจกรรมที่ทำ เช่น การเดินเล่นหรือดื่มไวน์กับคนรัก เพื่อเสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดี
- อ้างอิง www.popsugar.co.uk
เชื่อมโยง Analog Wellness และสุขภาพองค์รวม
การดูแลสุขภาพแบบ อะนาล็อกเวลเนส ไม่ใช่เพียงแค่ลดการใช้เทคโนโลยี เพราะสุขภาพของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับปัจจัยภายในที่ซับซ้อน เช่น จุลินทรีย์ในลำไส้ (Gut Microbiome) andพันธุกรรมที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามพฤติกรรม (Epigenetics) การดูแลสุขภาพในแนวทาง Analog Wellness จึงไม่เพียงช่วยลดความเครียดจากเทคโนโลยี แต่ยังรวมถึงการปรับสมดุลของร่างกายจากภายในจากการตรวจสุขภาพแบบองค์รวมเชิงลึก
ลำไส้กับอารมณ์ ความสัมพันธ์ที่มองไม่เห็นแต่ส่งผลต่อสุขภาพใจ
ในยุคดิจิทัลที่เต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสารและการสื่อสารที่รวดเร็ว ความเครียดได้กลายเป็นปัญหาสำคัญที่คนไทยจำนวนมากเผชิญโดยไม่รู้ตัว ความเครียดนี้ไม่เพียงส่งผลต่อสุขภาพจิต แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพลำไส้ ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “สมองที่สอง” ของร่างกาย
การศึกษาล่าสุดจาก Harvard Medical School พบว่าความเครียดสามารถกระตุ้นให้สมองตอบสนองต่อสัญญาณความเจ็บปวดจากระบบทางเดินอาหารได้ไวขึ้น และยิ่งเครียดมากเท่าไร อาการปวดหรือไม่สบายท้องก็อาจรุนแรงขึ้น ซึ่งเป็นวงจรที่ส่งผลเสียต่อทั้งร่างกายและจิตใจนอกจากนี้ รายงานวิจัยจากกรมสุขภาพจิต ยังระบุว่าความเครียดที่สะสมสามารถส่งผลต่อสุขภาพจิตและสุขภาพโดยรวมของคนไทย ทำให้การจัดการความเครียดเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสมดุลของร่างกาย
ลำไส้ ศูนย์กลางของอารมณ์และความเครียด
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เชื่อมโยงลำไส้กับอารมณ์คือ สารเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่มีบทบาทต่อความรู้สึก ความสุข และความเครียดของเรา มากถึง 80-90% ของเซโรโทนินในร่างกายถูกผลิตขึ้นที่ลำไส้ มากกว่าที่สมองสร้างเสียอีก
เมื่อเรามีความเครียดต่อเนื่อง ระดับเซโรโทนินที่ลำไส้ผลิตได้จะลดลง ส่งผลกระทบต่อสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ นำไปสู่ปัญหาด้านอารมณ์ ความจำ การนอน และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้า
ปัญหาสุขภาพลำไส้ไม่ได้เกิดจากอาหารที่เรากินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอารมณ์และระดับความเครียดในชีวิตประจำวัน ความเครียดที่สะสมอาจทำให้ลำไส้แปรปรวน มีอาการท้องอืด ท้องเสีย หรือกระตุ้นให้เกิดโรคลำไส้แปรปรวน (IBS) และโรคกรดไหลย้อน
Epigenetics เปลี่ยนพฤติกรรม ปรับยีน เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
พันธุกรรมของมนุษย์ไม่ได้ถูกกำหนดตายตัวตั้งแต่กำเนิด แต่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามพฤติกรรมและสภาพแวดล้อม การตรวจยีนช่วยให้เรารู้ว่าพฤติกรรมใดที่ควรปรับเปลี่ยนเพื่อกระตุ้นยีนที่ดีและลดผลกระทบของยีนที่ไม่พึงประสงค์ Analog Wellness สามารถช่วยเปิด-ปิดการทำงานของยีนได้ เช่น การฝึกหายใจ (Breathwork) การอาบเสียง (Sound Bath) หรือแม้แต่การใช้เวลากับธรรมชาติ (Dirty Wellness)
ทางเลือกที่ช่วยคืนสมดุลของร่างกายและจิตใจ
- ลดการใช้เทคโนโลยีอย่างมีสติ: การลดเวลาที่ใช้กับหน้าจอและโซเชียลมีเดียช่วยให้สมองได้พักฟื้นและลดภาวะความเครียด
- ทำกิจกรรมกลางแจ้ง: เช่น การเดินป่า การทำสมาธิกลางแจ้ง หรือโยคะ ช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียดและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- ใช้เทคนิคการบำบัดด้วยธรรมชาติ (Nature Therapy): การอยู่ท่ามกลางธรรมชาติช่วยให้จิตใจสงบ และช่วยส่งเสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น
- รับประทานอาหารที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้ เช่น โยเกิร์ต กิมจิ และผักผลไม้ที่มีใยอาหารสูง
- ตรวจสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ (Gut Microbiome DNA Test) ช่วยให้เรารู้จักจุลินทรีย์ในลำไส้ของตัวเองมากขึ้น เพื่อวางแผนการเสริม โพรไบโอติกส์เฉพาะบุคคล (Personalized Probiotics) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะร่างกายของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน
พร้อมเริ่มต้น Analog Wellness แล้วหรือยัง
อะนาล็อกเวลเนส ไม่ใช่เพียงแค่การลดการใช้เทคโนโลยี แต่เป็นแนวทางที่ช่วยให้คุณกลับมาใช้ชีวิตอย่างสมดุลและมีความสุขมากขึ้น การตรวจสุขภาพแบบองค์รวม such as การตรวจ Gut Microbiome และ Epigenetics ช่วยให้เรามองเห็นสุขภาพของตนเองในมิติที่ลึกขึ้น และสามารถปรับพฤติกรรมเพื่อเสริมสร้างสุขภาพในระยะยาว การผสมผสาน อะนาล็อกเวลเนส กับวิทยาศาสตร์ด้านสุขภาพจึงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ยืนยาวอย่างยั่งยืน
Service branches
- Praram 9 Hospital Branch
- Phone number: 092-9936922
- Line: @w9wellness
- Opening-closing hours: 08.00 – 17.00 hrs.
- Ploenchit Center branch
- Phone number: 099-4969626
- Line: @wploenchit
- Opening-closing hours: 10:00 a.m. - 7:00 p.m.