หลายคนน่าจะเคยรู้กันอยู่แล้วว่า หลังจากการติดเชื้อไวรัสจะยังมีอาการเหมือนป่วยอยู่ แม้ว่าเราจะตรวจไม่พบเชื้อแล้ว รักษาหายแล้วเกิน 28 วัน หรือเดือนนึงขึ้นไป จากรายงานการวิจัยหลายฉบับมีการระบุไว้ว่า 80% ของผู้ติดเชื้อจะมีอาการ อ่อนเพลีย ปวดหัว ขาดสมาธิ ผมร่วง และหอบเหนื่อยมากที่สุด ฟื้นฟูได้ด้วย โพรไบโอติกส์
อาการหลงเหลือหลังติดเชื้อไวรัส โพรไบโอติกส์
- ไอ และปวดศีรษะ
- รู้สึกยังมีไข้ตลอดเวลา
- เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียเรื้อรัง
- ใจสั่น หายใจไม่อิ่ม รู้สึกแน่นๆ หน้าอก
- นอนไม่ค่อยหลับ ความจำไม่ดี
- ปวดตามข้อ รู้สึกจี๊ดๆ ตามตัวหรือปลายเท้า
- มีภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล
กรมอนามัยแนะรับประทาน โพรไบโอติกส์ สำหรับผู้ที่มีมีอาการหลังหายติดเชื้อไวรัส เพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายและกระตุ้นระบบ “ภูมิคุ้มกัน” ให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการกินอาหารครบ 5 หมู่ ปรุงสุก สะอาด เน้นอาหารย่อยง่าย และควรบริโภคอาหารที่มีโพรไบโอติกส์ร่วมด้วย
ที่มา : กรมอนามัย https://multimedia.anamai.moph.go.th/news/160265/
ฟื้นฟูร่างกายหลังติดเชื้อไวรัสด้วย
โพรไบโอติกส์ (Probiotics) เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่มีชีวิต จุลินทรีย์เหล่านี้ได้รับการคัดเลือกแล้วว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่อรับประทานเข้าไปในร่างกายแล้วจะไปตั้งรกรากอาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ ช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่แต่เดิมในลำไส้ ทำให้แบคทีเรียที่ดีมีจำนวนมากขึ้น และแบคทีเรียที่ไม่ดีจำนวนลดลง ทำให้สุขภาพของลำไส้ดีขึ้น และยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน
การเลือกรับประทาน
ปัจจุบันมีอาหารที่มีโพรไบโอติกส์เป็นส่วนผสมมีอยู่มากมายหลายอย่าง และหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป เช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ต กิมจิ เป็นต้น และหากต้องการบริโภคนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตชนิดที่มี “โพรไบโอติกส์” ก่อนซื้อต้องอ่านฉลากข้างขวดหรือข้างถ้วย เพราะเชื้อจุลินทรีย์เหล่านี้เป็นโพรไบโอติกส์ ที่ให้ประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหารและระบบภูมิคุ้มกัน
- ไบฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium)
- ไบฟิโดแบคทีเรียม แอนิมาลิส (Bifidobacterium animalis DN173010)
- แล็คโตแบซิลลัส เคซิไอ (Lactobacillus casei)
- แล็คโตแบซิลลัส แอซิโดฟิลลัส (Lactobacillus acidophilus)
“การกินโพรไบโอติกส์ให้ได้ผลดี ต้องกินสม่ำเสมอต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ห้ามกินๆ หยุดๆ”
โพรไบโอติกส์เป็นเกราะป้องกันด่านแรกที่ช่วยต่อต้านสิ่งแปลกปลอมจากภายนอกร่างกาย ดังนั้น การรับประทานโพรไบโอติกส์จึงอาจช่วยลดโอกาสการเกิดโรคหรือความผิดปกติได้หลายอย่าง เช่น ลดภาวะการย่อยอาหารผิดปกติ ท้องเสียจากการติดเชื้อ ป้องกันโรคลำไส้แปรปรวน โรคภูมิแพ้ โรคตับ ไข้หวัด เป็นต้น
การรับประทานโพรไบโอติกส์ให้เกิดประโยชน์
การรับประทานอาหารที่มีโพรไบโอติกส์ให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด จะต้องรับประทานร่วมกับพรีไบโอติกส์ หรืออาหารที่มีกากใยไฟเบอร์สูง เช่น ธัญพืช ถั่วเมล็ดแห้ง กล้วย หัวหอมใหญ่ กระเทียม เป็นต้น เพื่อเป็นอาหารให้จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ ส่งเสริมให้จุลินทรีย์แข็งแรงและทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
และอย่างที่กล่าวไป โพรไบโอติกส์ที่ช่วยเสริมความแข็งแรง และกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายมีหลายตัว ดังนั้น การเลือกรับประทานให้เหมาะกับร่างกายตัวเอง เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญไม่น้อย เพราะถึงแม้จะเลือกเสริมโพรไบโอติกส์อย่างต่อเนื่อง แต่เป็นตัวที่ร่างกายมีเพียงพออยู่แล้ว ก็อาจจะไม่พบความเปลี่ยนแปลงอะไร หรือช่วยกระตุ้นความแข็งแรงของภูมิคุ้มกันแต่อย่างใด ดังนั้น การเสริมโพรไบโอติกส์ให้ตรงกับที่ร่างกายขาด และต้องการจริงๆ ก็เป็นอีก 1 ทางเลือก ที่ช่วยเสริมเกราะความแข็งแรงภูมิคุ้มกันให้ดียิ่งขึ้น
แต่ถ้าใครรู้สึกว่าลำบาก ไม่มีเวลาในการเลือกรับประทานอาหารให้ครบถ้วนตามที่กล่าวมา W9 เราก็มีโปรแกรมในการฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง ครบ จบ ในโปรแกรมเดียว
- เน้นเข้าบำรุงร่างกาย และระบบภูมิคุ้มกัน (Vitamin Supplement Pack 3 เดือน)
- ลดอาการอักเสบ
- เร่งการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
- ป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจ และเพิ่มภูมิคุ้มกัน
- เร่งการซ่อมแซม และบำรุงสุขภาพระดับเซลล์ (Hyperbaric Oxygen Therapy 5 ครั้ง)
- กระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
- ฟื้นฟูระบบการไหลเวียนของเลือด
- ช่วยเพิ่มพลังงาน ลดอาการอ่อนเพลีย
- เพิ่มการฟื้นฟูและคืนสมดุลให้ร่างกาย ป้องกันการติดเชื้อซ้ำ (Vitamin IV Drip 5 ครั้ง)
- ฟื้นฟูประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะต่างๆ
- คืนสมดุลวิตามิน และแร่ธาตุเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ
- เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย พร้อมดูดซึมทันที
จะเห็นได้ว่า แม้ร่างกายจะหายติดเชื้อไวรัสแล้ว แต่อาการเรื้อรังต่างๆ ยังมีอยู่ ดังนั้น เราควรรีบทำร่างกายตัวเองให้กลับมาแข็งแรงโดยเร็ว แต่ถ้าหากใครมีความกังวลเรื่องสุขภาพ สามารถแอดไลน์ @W9Wellness มาปรึกษาได้เลย นัดหมอเลย Add Line : @w9wellness หรือโทร 092-993-6922, 1270