ค้นหา
ปิดช่องค้นหานี้

Mistletoe Therapy – ต่อสู้มะเร็งด้วยวิถีธรรมชาติบำบัด

มิสเซิลโท (Viscum album) เป็นพืชกาฝากชนิดหนึ่งที่เติบโตบนกิ่งพืชยืนต้นชนิดอื่น เช่น ต้นแอปเปิ้ล ต้นโอ๊ค ต้นสน เป็นต้น ซึ่งคุณสมบัติก็จะแตกต่างกันไปตามต้นที่ขึ้น นอกจากมิสเซิลโทมักจะถูกนำมาใช้ประดับตกแต่งในช่วงเทศกาลคริสต์มาสแล้ว ชาวยุโรปยังได้มีการนำสารสกัดจากมิสเซิลโทมาใช้เป็นยารักษาโรคและความผิดปกติมากมาย โดยเฉพาะ ความผิดปกติในระบบภูมิต้านทาน ในกลุ่มโรคแพ้ภูมิตัวเอง (Autoimmune) ของระบบต่างๆในร่างกาย เช่น multiple sclerosis (MS), lupus (systemic lupus erythematosus, SLE), rheumatoid arthritis (RA) เป็นเวลาหลายร้อยปีมาแล้ว และหนึ่งในโรคความเสื่อมของระบบภูมิต้านทาน ที่มีการศึกษาวิจัย ปรับปรุงพัฒนาวิธีการรักษามาตลอดก็คือ การนำมาใช้ร่วมรักษาผู้ป่วย “โรคมะเร็ง”

มีงานวิจัยมากมายพบว่า สารสกัดจากมิสเซิลโทมีส่วนช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็ง โดยเฉพาะประเทศแถบยุโรปมีการใช้มิสเซิลโท ช่วยในการรักษาโรคมะเร็งมาเป็นเวลานานกว่า 100 ปี มีการวิจัยและเป็นที่ยอมรับในการนำไปรักษาร่วมกับการรักษาหลักในผู้ป่วยมะเร็ง เช่น การฉายแสง และให้เคมีบำบัด โดยพบว่าการใช้สารสกัดจากมิสเซิลโทนั้น มีความปลอดภัย ช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น ช่วยลดผลข้างเคียงจากการรักษาได้เป็นอย่างดี และไม่ลดประสิทธิภาพ หรือต่อต้านการรักษาหลัก ทั้งยังเพิ่มความแข็งแรงให้ร่างกาย ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้นได้

ในปัจจุบัน การรักษามะเร็งด้วยสารสกัดมิสเซิลโทถือเป็น การรักษาทางร่วมและทางเลือก (Complementary and Alternative Treatment) ที่มีการใช้อย่างกว้างขวางมากที่สุดแนวทางหนึ่ง ในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง

เป้าหมายของการรักษาด้วยมิสเซิลโท

  • การควบคุมขนาดก้อน
  • ลดการกระจาย
  • ลดผลข้างเคียงจากยาเคมี
  • ฟื้นฟูระบบภูมิต้านทานของร่างกาย
  • เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการเก็บกักความร้อนภายในร่างกาย
  • เพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย ความสดชื่นสดใส
  • เพิ่มคุณภาพชีวิต (Quality of Life)

Mistletoe Therapy นับเป็นเพียงหนึ่งองค์ประกอบหลักของการรักษาโรคแบบองค์รวม (Holistic) โดยมักใช้ร่วมกับการรักษาร่วมอื่น (Complementary Treatments) เช่น การปรับสมดุลภาวะโภชนาการ การใช้สารละลายเจือจางจากแร่ธาตุ (Metal Therapy) หรือสารสกัดจากพืชสมุนไพร (Herbal extracts & Homeopathy) เป็นต้น

เนื่องจากมิสเซิลโทมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และต้านมะเร็ง รวมทั้งสามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้ดีขึ้น โดยพบว่าสาร Lectin ที่อยู่ในมิสเซิลโท นั้นได้ช่วยกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวที่ชื่อแมคโครฟาจ (Macrophage) และเดนไดรติค ทำงานได้ดีขึ้นในการทำลายมะเร็ง

นักวิจัยจากศูนย์มะเร็ง Johns Hopkins Kimmel พบว่า การฉีดมิสเซิลโทให้ผู้ป่วยมะเร็งทำให้เนื้องอกหดตัวลง เสริมระบบภูมิคุ้มกัน และบรรเทาความเจ็บปวด ลดความเหนื่อยล้าจากอาการของโรคมะเร็งได้ อีกทั้งในสหรัฐอเมริกา มิสเซิลโทยังถูกนำมาใช้เพื่อเสริมการรักษามะเร็งให้กับผู้ป่วยที่หลีกเลี่ยงผลข้างเคียงของเคมีบำบัดหรือการฉายรังสี เช่น ผมร่วง คลื่นไส้ และอ่อนแรง โดยพบว่า เมื่อใช้ร่วมกับการรักษาทางหลัก มิสเซิลโทสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาได้

การรักษาด้วยสารสกัดมิสเซิลโท มักใช้วิธีการฉีดสารสกัดเข้าไปใต้ผิวหนัง วันละครั้ง ประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งขนาดยาและระยะเวลาการรักษา จะขึ้นกับชนิดของโรค ชนิดและระยะของโรคมะเร็ง และการตอบสนองของผู้ป่วย

นอกจากงานวิจัยที่บ่งชี้ว่า มิสเซิลโทอาจมีส่วนช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตจากมะเร็งได้แล้ว ยังมีการใช้มิสเซิลโทประกอบในการรักษาโรคเรื้อรังอื่นอีกมากมาย เช่น ใช้ในระหว่างการพักฟื้นหลังจากโรคติดเชื้อร้ายแรง เสริมการรักษาการติดเชื้อ HIV ภาวะตับอักเสบ รักษาภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอ ใช้ในการรักษาความดันโลหิตสูง รักษาโรคลมชัก โรครูมาตอยด์ และโรคข้อเสื่อมตามวัยได้อีกด้วย

มิสเซิลโท ทางเลือกของผู้ป่วยมะเร็ง

  • ช่วยให้ NK Therapy เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่จัดการมะเร็ง สามารถทำงานได้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
  • ช่วยลดการกระจายตัวของมะเร็ง ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก (โดยเฉพาะในระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด)
  • ช่วยลดอาการจากผลข้างเคียงของเคมีบำบัด เช่นอาการคลื่นไส้ อาเจียน ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว
  • ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแทรกซ้อน จากภูมิคุ้มกันตก
  • ช่วยให้นาฬิกาชีวิตของผู้ป่วยทำงานได้สมดุลไม่ว่าจะเป็นเรื่องการนอน การทานอาหาร การย่อย อุณหภูมิของร่างกายไม่ต่ำจนเกินไป
  • ปรับอารมณ์ให้ไปในทางบวก ลดภาวะซึมเศร้า หรือเครียดจนเกินไป
  • ช่วยให้อาการปวดจากก้อนมะเร็งควบคุมได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยมองหาวิธีเสริมการรักษามะเร็ง ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำและการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด แต่จะดียิ่งกว่าหากสามารถป้องกันโรคมะเร็งไม่ให้เกิดขึ้นได้ ด้วยการตรวจสุขภาพเป็นประจำ การตรวจหาความเสี่ยงการเกิดเนื้องอกหรือมะเร็งอยู่เสมอ การปรับไลฟ์สไตล์ให้ดี การวางแผนโภชนาการให้ดี เน้นเข้าบำรุงและบำบัดสุขภาพให้ดีได้ก่อนที่จะเกิดโรคร้ายแรง

References :

  • National Cancer Institute, Mistletoe Extracts (PDQ®) CAM for Cancer Treatment (2021 Update)
  • Quality of life in cancer patients treated with mistletoe: a systematic review and meta-analysis. BMC Complementary Medicine (2020)
  • Interaction of standardized mistletoe extracts with chemotherapeutic drugs regarding cytostatic and cytotoxic effects in vitro. BMC Complement Altern Med (2014)
  • Influence of Viscum album L (European mistletoe) extracts on quality of life in cancer patients. Integrative Cancer Therapy (2010)
  • Efficacy and safety of mistletoe preparations for patients with cancer diseases. Forsch Komplementmed (2009)
  • Viscum album L. extracts in breast and gynaecological cancers. Journal of experimental & clinical cancer research (2009)
  • Complementary cancer therapy: a systematic review of prospective clinical trials on anthroposophic mistletoe extracts. European Journal of Medical Research (2007)
  • A plant lectin derived from Viscum album induces cytokine gene expression and protein production in cultures of human peripheral blood mononuclear. Natural Immunity (1995)

โปรแกรมแนะนำ

โปรแกรมตรวจวิเคราะห์การทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว NK Cell Activity เพื่อดูประสิทธิภาพการทำงาน ว่าสามารถฆ่าเชื้อไวรัส หรือเซลล์แปลกปลอม ที่เกิดขึ้นในร่างกายของเราได้มาน้อยแค่ไหน เพื่อจะได้วางแผนการป้องกันก่อนเกิดโรค

ราคา ฿180,000.00 บาท

Curcumin Vitamin IV Drip ขุมทรัพย์จากธรรชาติมีฤทธิ์ต้านการอักเสบได้ดี เป็นอาหารเสริมที่มีประสิทธิภาพสูง

ราคา ฿12,000.00 บาท

โปรแกรมวิเคราะห์ความเสี่ยง 13 โรคมะเร็ง และ 21 โรคที่พบบ่อย จากสารพันธุกรรม (DNA) โดยใช้การตรวจจากน้ำลาย

เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคมะเร็ง, โรคอัลไซเมอร์, โรคความจำเสื่อม และโรคหัวใจและหลอดเลือด

ราคา ฿29,000.00 บาท

ปรึกษาปัญหาสุขภาพและรับสิทธิพิเศษสำหรับคุณได้ที่นี่

บทความที่เกี่ยวข้อง

คีเลชั่นบำบัด คือ การกำจัดหรือล้างสารพิษโลหะหนักในร่างกาย โดยการให้สารทางหลอดเลือด เพื่อที่จะไปจับกับโลหะหนักออกจากร่างกาย

มะเร็ง นับเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนไทย ที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 20 ปี เราพบคนไทยเสียชีวิตจากมะเร็งทุกชนิดรวมกันปีละเกือบ 70,000 คน โดยทิ้งห่างจากโรคอื่นๆ ในอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี ทั้งนี้มะเร็งนั้นจัดอยู่ในกลุ่มของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่มีความรุนแรงมากที่สุด และอีกวิธีคือการ ตรวจวิตามินดี เพื่อป้องกันความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง คำแนะนำเพื่อป้องกันมะเร็ง สิ่งที่หมออยาก “เน้นย้ำ” กับทุกคนเกี่ยวกับสาเหตุของโรคมะเร็ง ก็คือ จริงๆ แล้วโรคมะเร็งนั้นมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม (Genetics) น้อยมาก พบเพียง 10% โดยเฉลี่ย ที่เหลืออีกมากกว่า 90% มีสาเหตุมาจากปัจจัยภายนอกที่ไม่ใช่พันธุกรรม (Epigenetics) สาเหตุส่วนใหญ่ของโรคมะเร็งเราทราบกันดีอยู่แล้ว ได้แก่ พฤติกรรมการกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ และอาหารปิ้งย่าง ไม่ทานผักผลไม้ สูบบุหรี่ ดื่มสุรา โรคอ้วน การติดเชื้อเรื้อรัง ความบกพร่องของภูมิคุ้มกัน รวมถึงความเครียดเรื้อรังด้วย มีการศึกษาถึงความสัมพันธ์ของระดับวิตามินดีในเลือดกับอัตราการเกิดมะเร็ง แล้วพบว่า มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญจริงๆ โดยกลุ่มคนที่มีระดับวิตามินดีต่ำ จะมีโอกาสเป็นมะเร็งมากกว่ากลุ่มที่มีระดับวิตามินดีสูง จึงสรุปได้ว่า ภาวะขาดวิตามินดีเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งมากกว่า 20 ชนิด การ ตรวจวิตามินดี […]

มีคนถามเข้ามาเยอะว่า “หายติดเชื้อไวรัสแล้วแต่ยังมีอาการอยู่” หรือบางคนตอนเป็นติดเชื้อไวรัสมีอาการน้อย แต่พอหายแล้วกับมีอาการเยอะขึ้น ไวรัสได้ฝากลอยแผลเป็นอะไรไว้ให้กับเราบ้าง