ฮอร์โมนวัย 30+

ฮอร์โมนวัย 30+ ไม่สมดุล สัญญาณเตือนสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม

คุณเคยรู้สึกไหมว่า แม้จะนอนหลับครบ 7-8 ชั่วโมง แต่ก็ยังรู้สึกไม่สดชื่น? หรือกินอาหารเท่าเดิมแต่น้ำหนักกลับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรอบเอว? หลายคนมองข้ามสัญญาณเหล่านี้ว่าเป็นเพียงเรื่องของอายุหรือความเครียด แต่ในความจริงแล้ว นี่อาจเป็นเสียงสะท้อนจากภายในที่บอกว่า ฮอร์โมนของคุณกำลัง “รวน” หรือกำลังเผชิญ ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล โดยไม่รู้ตัว ซึ่งพบได้บ่อยในคนที่อยู่ในช่วงสุขภาพ ฮอร์โมนวัย 30+

เมื่อย่างเข้าสู่วัย 30+ ร่างกายจะเริ่มเปลี่ยนแปลงในระดับเซลล์ ทำให้ฮอร์โมนสำคัญหลายตัวลดระดับลงอย่างช้าๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจของคุณโดยตรง หากคุณสงสัยว่า อาการฮอร์โมนไม่สมดุล เป็นอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ

ฮอร์โมนที่เริ่มเปลี่ยนในวัย 30+ และอาการฮอร์โมนไม่สมดุล

วัย 30+ ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของสุขภาพ เพราะเป็นช่วงที่ระดับฮอร์โมนหลายตัวเริ่มลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ร่างกายไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของ อาการฮอร์โมนไม่สมดุล เช่น เหนื่อยง่าย น้ำหนักเพิ่ม อารมณ์แปรปรวน และนอนหลับไม่สนิท

ฮอร์โมนวัย 30+

ฮอร์โมนที่สำคัญและเริ่มเปลี่ยนแปลงในวัยนี้ ได้แก่

  • Growth Hormone (GH): ฮอร์โมนแห่งการซ่อมแซมและชะลอวัย ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญในการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ในร่างกาย เมื่อระดับ GH ลดลงหลังอายุ 30 ปี จึงเป็นสาเหตุให้ผิวพรรณไม่สดใส การฟื้นตัวของร่างกายช้าลง และมวลกล้ามเนื้อลดลง
  • DHEA: ฮอร์โมนพื้นฐานที่สร้างจากต่อมหมวกไต ทำหน้าที่เป็นสารตั้งต้นในการผลิตฮอร์โมนเพศชายและหญิง เมื่อ DHEA ลดลงจะส่งผลต่อความสมดุลของฮอร์โมนอื่นๆ และยังทำให้รู้สึกอ่อนเพลียได้ง่าย
  • Testosterone / Estrogen: ฮอร์โมนเพศเหล่านี้จะเริ่มลดลงเล็กน้อยในช่วงปลาย 30 และจะลดลงมากขึ้นเมื่อเข้าสู่วัย 40 การลดลงของฮอร์โมนเหล่านี้ส่งผลต่อความต้องการทางเพศ อารมณ์ และความหนาแน่นของกระดูก
  • Cortisol: ฮอร์โมนความเครียดตัวนี้จะทำงานหนักขึ้นเมื่อคุณมี ความเครียดสะสม ทำให้ฮอร์โมนอื่นๆ เสียสมดุลอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะ ฮอร์โมนคอร์ติซอลสูง

เมื่อฮอร์โมนรวน อะไรจะเกิดขึ้นกับคุณ?

เมื่อ ฮอร์โมนวัย 30+ เริ่มไม่สมดุล ร่างกายจะแสดงสัญญาณเตือนเหล่านี้ออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้

  • ระบบเผาผลาญช้าลง: การลดลงของ Growth Hormone และ Testosterone ทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลง ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้น้อยลง น้ำหนักจึงเพิ่มขึ้นง่าย โดยเฉพาะบริเวณรอบเอว
  • นอนไม่ลึก พักผ่อนไม่เพียงพอ: ความเครียดหรือการได้รับแสงสีฟ้าจากหน้าจอก่อนนอน ทำให้ฮอร์โมนเมลาโทนินลดลง ส่งผลให้วงจรการนอนหลับไม่สมบูรณ์ และทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่
  • อารมณ์แปรปรวน: ฮอร์โมนเพศ รวมถึง Cortisol ที่สูงเกินไป สามารถรบกวนการทำงานของสารสื่อประสาทในสมองอย่างโดพามีนและเซโรโทนิน ทำให้เกิดอาการหงุดหงิดง่าย ไม่มีสมาธิ หรือรู้สึกไม่มีความสุข
  • หมดแรงง่าย ขาดแรงจูงใจ: การลดลงของ Growth Hormone และ DHEA ทำให้ร่างกายขาดพลังงานและความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรมต่างๆ
  • ความเสี่ยงต่อโรคในระยะยาว: หากปล่อยให้ฮอร์โมนเสียสมดุลนานๆ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ เช่น ภาวะไขมันพอกตับ กลุ่มอาการอ้วนลงพุง (Metabolic Syndrome) โรคกระดูกพรุน หรือภาวะซึมเศร้า

ความเครียด…ตัวเร่งให้ฮอร์โมนรวนหนักขึ้น

แม้ระดับฮอร์โมนจะเปลี่ยนไปตามธรรมชาติ แต่ ความเครียด คือตัวเร่งปฏิกิริยาที่รุนแรงที่สุด เพราะความเครียดสะสมจะเร่งการหลั่ง คอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งทำให้ระบบฮอร์โมนเพศถูกกด วงจรการนอนเสีย น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น และเกิดการสะสมไขมันมากขึ้น

วิธีแก้ฮอร์โมนรวนและฟื้นฟูสมดุลฮอร์โมนในวัย 30+

ฮอร์โมนวัย 30+

การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีจะช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกายและฟื้นฟูสมดุลฮอร์โมนได้ หากคุณกำลังมองหา วิธีปรับสมดุลฮอร์โมน ลองเริ่มต้นจากแนวทางเหล่านี้

  • การตรวจฮอร์โมนเบื้องต้น: ก้าวแรกสู่การฟื้นฟูสุขภาพ การตรวจระดับฮอร์โมนอย่าง DHEA, GH, Cortisol, Vitamin D, และ Sex Hormones จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของสุขภาพ และสามารถวางแผนการดูแลตัวเองได้อย่างตรงจุด
  • ปรับพฤติกรรมง่ายๆ เพื่อปรับสมดุลฮอร์โมน
    • การนอนหลับ: พักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมง และหลีกเลี่ยงแสงสีฟ้าจากหน้าจอก่อนนอน
    • การออกกำลังกาย: เน้นการฝึกแบบ Weight Training หรือ High-Intensity Interval Training (HIIT) เพื่อช่วยกระตุ้น Growth Hormone และ Testosterone ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • โภชนาการ: ลดการบริโภคคาเฟอีน น้ำตาล และอาหารแปรรูป และเพิ่มการกินอาหารที่มีประโยชน์ เช่น อาหารที่มีไขมันดี (อะโวคาโด, ปลาทะเลน้ำลึก) หรืออาหารที่มีแมกนีเซียมสูง (ผักใบเขียว, ถั่วเปลือกแข็ง)
  • การดูแลแบบเฉพาะบุคคล: การรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยจะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับร่างกายของคุณมากที่สุด ทั้งในเรื่องอาหาร วิตามิน และการใช้ชีวิต

เคสตัวอย่าง: ฟื้นฟูสมดุลฮอร์โมนสำเร็จ

คุณเอ อายุ 38 ปี กับภาวะฮอร์โมนเสียสมดุล

“คุณเอ” อายุ 38 ปี ทำงานในสายการตลาดที่ต้องนอนดึกบ่อยๆ เขารู้สึกเหนื่อยง่าย น้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะรอบเอว และอารมณ์ไม่คงที่ เมื่อมาตรวจสุขภาพเชิงลึกที่ W9 Wellness แพทย์พบว่าระดับ คอร์ติซอลสูงกว่าค่าปกติ และ DHEA สูง ซึ่งบ่งบอกถึงภาวะฮอร์โมนเสียสมดุลจากความเครียดสะสม

หลังจากได้รับคำแนะนำให้ปรับพฤติกรรมการนอนและจัดการความเครียด พร้อมวางแผนโภชนาการและวิตามินเฉพาะบุคคล ภายใน 3 เดือน คุณเอมีน้ำหนักลดลง 2 กก. อารมณ์ดีขึ้น สบายตัว และนอนหลับได้ลึกขึ้นกว่าเดิม

ฮอร์โมนวัย 30+

คำแนะนำจากแพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัย

การดูแลสุขภาพในวัย 30+ นั้น ไม่ใช่แค่การรักษาอาการที่เกิดขึ้น แต่คือการป้องกันและชะลอความเสื่อมของร่างกายตั้งแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของ “ฮอร์โมน” ที่เป็นพื้นฐานสำคัญของสุขภาพในระยะยาว

ในมุมมองของแพทย์ เราไม่ได้มองแค่ระดับฮอร์โมนที่ลดลงตามอายุเท่านั้น แต่เราให้ความสำคัญกับปัจจัยภายในที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เช่น ความเครียดสะสม, พฤติกรรมการใช้ชีวิต, พันธุกรรม และภาวะโภชนาการที่ไม่เหมาะสม

ดังนั้น การตรวจสุขภาพเชิงลึกในระดับฮอร์โมนจึงไม่ใช่แค่การ “ตรวจ” แต่คือการ “ค้นหา” ต้นเหตุของปัญหา และนำมาสู่การวางแผนการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่เหมาะกับคุณโดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยให้คุณกลับมามีพลังงานที่เต็มเปี่ยม นอนหลับได้ดีขึ้น และมีอารมณ์ที่คงที่อีกครั้ง โดยไม่ต้องรอให้ปัญหาลุกลามจนยากที่จะแก้ไข – หมอไอซ์ (พญ. ภัทรลดา ฤทธิวงศ์)

อย่ารอให้ “ฮอร์โมนรวน” จนสายเกินไป

หากคุณเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ อย่าคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะนั่นคือเสียงสะท้อนจากร่างกายที่กำลังขอความช่วยเหลือ การตรวจฮอร์โมนอย่างเหมาะสมในวัย 30+ คือจุดเริ่มต้นของการดูแลตัวเองอย่างถูกทิศทาง เพื่อให้คุณมีสุขภาพที่ดีและใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพในทุกๆ วัน

สาขาที่ให้บริการ

  • สาขา โรงพยาบาลพระรามเก้า
    • เบอร์โทรศัพท์: 092-9936922
    • Line: @w9wellness
    • เวลาเปิด-ปิด: 08.00 – 17.00 น.
  • สาขา เพลินจิตเซ็นเตอร์
    • เบอร์โทรศัพท์: 099-4969626
    • Line: @wploenchit
    • เวลาเปิด-ปิด: 10.00 – 19.00 น.

เกี่ยวกับผู้จัดทำบทความ

ตรวจทานความถูกต้องโดย

หมอไอซ์

พญ. ภัทรลดา ฤทธิวงศ์ (หมอไอซ์)

แพทย์ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและเวชศาสตร์ป้องกัน
W9 Wellness Center

บทความนี้เรียบเรียงโดย

สุนิษา ภัทรธาราพงศ์ (ก้อย)

Online Marketing Supervisor, W9 Wellness Center
ผู้เรียบเรียงบทความให้เข้าใจง่ายและตรงประเด็นสำหรับผู้อ่านทุกกลุ่ม

แหล่งอ้างอิง

Share : 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ช่วงนี้เราได้ยินความสำคัญของ Vitamin D มาค่อนข้างเยอะ ในแต่ละวันร่างกายเราต้องการวิตามินดีเฉลี่ยอยู่ที่

นับวันปัญหามลพิษทางอากาศส่งผลต่อสุขภาพของคนในยุคนี้ไม่น้อย โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ต้องเจอทั้งฝุ่น PM2.5 ควันรถจากท่อไอเสีย ไมโครพลาสติก

การรักษามะเร็งในปัจจุบันมีหลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับชนิด ระยะ และความรุนแรงของโรค ซึ่งการรักษาทางหลักก็จะแบ่งการรักษาออกเป็น การผ่าตัด