“โรคมะเร็ง” คำที่ไม่มีใครอยากได้ยิน แต่เราทุกคนสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ได้ ด้วยการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะมีงานวิจัยจำนวนมากชี้ให้เห็นว่า อาหาร มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและต่อสู้กับโรคมะเร็ง คำว่า อาหารต้านมะเร็ง ไม่ได้หมายความว่าเป็นอาหารวิเศษที่สามารถรักษาโรคได้ แต่หมายถึงสารอาหารที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเซลล์มะเร็ง และยังช่วยชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้
โภชนาการกับการป้องกันโรคมะเร็ง
“อาหารคือยา” คำกล่าวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของอาหารที่มีผลต่อสุขภาพของเราเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ รวมถึงโรคมะเร็งที่เป็นภัยคุกคามชีวิตของคนทั่วโลก
งานวิจัยทางการแพทย์จำนวนมากชี้ให้เห็นว่า โภชนาการที่ดีมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้ ดังนั้น การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างสม่ำเสมอ จึงเปรียบเสมือนการสร้างเกราะป้องกันโรคร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือที่เราเรียกว่า อาหารต้านมะเร็ง
- เลือกรับทานอาหารที่มีประโยชน์ : การรับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช และอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น แอปเปิล เบอร์รี่ ชาเขียว อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้
- อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง : อาหารแปรรูป อาหารทอด อาหารรมควัน เนื้อแดง และไขมันสูง อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้
- สมดุลน้ำหนักตัว : การควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และการออกกำลังกายเป็นประจำ ก็มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้
“รู้หรือไม่? รับประทานผักและผลไม้ให้ได้ครึ่งหนึ่งของปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ หรือประมาณ 500 กรัม/วัน เป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้”
อาหารต้านมะเร็ง หรืออาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
ผู้ป่วยมะเร็งมักเผชิญกับปัญหาการรับประทานอาหาร เนื่องจากได้รับผลข้างเคียงจากการรักษา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร หรือการเปลี่ยนแปลงของรสชาติอาหาร ทำให้ผู้ป่วยไม่ค่อยอยากที่จะรับประทานอาหาร และยิ่งพบมากขึ้นในผู้ป่วยที่มีความรุนแรงของโรค การเบื่ออาหารส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ร่างกายอ่อนล้า และอาจส่งผลต่อการรักษา
ดังนั้น เราควรให้ความสำคัญกับอาหารการกิน เพราะการได้รับสารอาหารที่เพียงพอมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาและฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วยมะเร็ง
- ความสำคัญของสารอาหาร : ผู้ป่วยมะเร็งต้องการโปรตีน พลังงาน วิตามิน และแร่ธาตุในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- ปรับเปลี่ยนอาหาร : การปรุงอาหารให้น่ารับประทาน การแบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อเล็กๆ หลายมื้อ และการใช้เครื่องเทศหลากหลายเพื่อเพิ่มรสชาติ อาจช่วยเพิ่มความอยากอาหารได้
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ : การปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ จะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับคำแนะนำในการวางแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของตนเอง
โภชนาการกับการรักษาโรคมะเร็ง
- การรักษาด้วยเคมีบำบัด : เลือกรับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูง ดื่มน้ำมากๆ และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาจช่วยลดอาการข้างเคียงของการรักษาด้วยเคมีบำบัดได้
- การรักษาด้วยรังสีบำบัด : เลือกรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง และหลีกเลี่ยงอาหารที่ระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร อาจช่วยบรรเทาอาการปากแห้งและลำคออักเสบได้
- การผ่าตัด : เลือกรับประทานอาหารที่มีแคลอรี่สูง และโปรตีนสูง แร่ธาตุสูง เพื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
และในทางเวลเนสเองเราก็มีทางเลือกในการช่วยลดผลข้างเคียงจากการรักษาทางเคมีบำบัดได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้สารสลักจากมิสเซิลโท (Mistletoe Therapy) เพราะมีส่วนช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันกับโรคมะเร็ง ช่วยลดผลข้างเคียงจากการรักษาได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้ป่วยมีอาการที่ดีขึ้น
คำแนะนำเพิ่มเติม :
- เฉพาะบุคคล : โภชนาการที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละรายจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง ระยะของโรค และการตอบสนองต่อการรักษา
- ปรึกษาแพทย์ : ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ เพื่อวางแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับตนเอง
- อาหารเสริม : การรับประทานอาหารเสริม ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
การดูแลสุขภาพเริ่มต้นจากการดูแลอาหารที่เราทานทุกวัน โดยเฉพาะผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องการสารอาหารที่ครบถ้วน เพราะโภชนาการที่ดีมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หากใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเลือกรับประทานอาหาร หรือการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยมะเร็ง สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือนักโภชนาการในการช่วยวางแผนการดูแลสุขภาพให้เหมาะสมแต่ละบุคคลได้เลยค่ะ
สาขาที่ให้บริการ
- สาขา โรงพยาบาลพระรามเก้า
- เบอร์โทรศัพท์: 092-9936922
- Line: @w9wellness
- เวลาเปิด-ปิด: 08.00 – 17.00 น.
- สาขา เพลินจิตเซ็นเตอร์
- เบอร์โทรศัพท์: 099-4969626
- Line: @wploenchit
- เวลาเปิด-ปิด: 10.00 – 19.00 น.