แม้เราจะนอนเพียงพอ กินดี และออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่หลายคนยังรู้สึก “พลังไม่เหมือนเดิม” หรือ “สมองล้าโดยไม่ทราบสาเหตุ” หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มักถูกมองข้ามคือระดับของ NAD+ (Nicotinamide Adenine Dinucleotide) ซึ่งเป็นสารชีวโมเลกุลสำคัญในทุกเซลล์ของร่างกาย และมีแนวโน้มลดลงตามอายุ
NAD+ คืออะไร และทำงานอย่างไรในร่างกาย
NAD+ เป็นโคเอนไซม์ (Coenzyme) ที่พบในทุกเซลล์ของมนุษย์ ทำหน้าที่สำคัญในการเปลี่ยนพลังงานจากอาหารให้เป็นพลังงานที่เซลล์ใช้ได้จริงในรูป ATP (Adenosine Triphosphate) และยังเป็นสารตั้งต้นขององค์ประกอบของสาย DNA เมื่อระดับ NAD+ ลดลง กระบวนการสร้างพลังงานและซ่อมแซมเซลล์จะทำงานได้ไม่เต็มที่ ซึ่งอาจสัมพันธ์กับความอ่อนล้า ภาวะสมองล้า และสัญญาณการเสื่อมระดับเซลล์
NAD+ ยังเกี่ยวข้องกับ
- การกระตุ้นยีน Sirtuins ซึ่งมีบทบาทในกระบวนการชะลอความเสื่อมและการควบคุมการอักเสบ
- การซ่อมแซม DNA และการคงความเสถียรของ Gene
- การทำงานของระบบประสาทและการสื่อสัญญาณระหว่างเซลล์
- การเผาผลาญพลังงานและสมดุลเมตาบอลิซึม
อ่านเพิ่มเติม
- Nature Reviews Molecular Cell Biology : NAD+ metabolism and its roles in ageing
- PubMed: Lautrup, 2024 : Roles of NAD+ in Health and Aging
- Mayo Clinic News Network : CD38 linked to age-related NAD+ decline
กลไกสำคัญของ NAD+
ลองนึกว่า NAD+ คือ “สะพานส่งพลังงาน” ที่เชื่อมอาหารที่เราทานกับพลังงานที่เซลล์ใช้จริง (ATP) เมื่อสะพานนี้อ่อนแรงลง เซลล์ผลิตพลังงานได้ลดลง สมองอาจล้า ระบบซ่อมแซมทำงานช้าลง แต่เมื่อระดับ NAD+ สมดุล กลไกระดับเซลล์จะกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานของยีน Sirtuins (SIRT1–SIRT7) ซึ่งสัมพันธ์กับความยืดหยุ่นของอายุเซลล์ก็จะทำงานสมดุลขึ้นเช่นกัน
หมายเหตุ: หลักฐานส่วนหนึ่งมาจากงานวิจัยเชิงกลไกและสัตว์ทดลอง เช่น Harvard Medical School “Rewinding the clock” ซึ่งยังต้องมีการศึกษาต่อในมนุษย์เพื่อยืนยันประสิทธิผลโดยตรง
ปัจจัยที่ทำให้ระดับ NAD+ ในร่างกายลดลง
ระดับ NAD+ เปลี่ยนแปลงได้จากหลายปัจจัย จากการทบทวนศึกษาในมนุษย์พบความเชื่อมโยงดังนี้
- อายุที่มากขึ้น & เอนไซม์ CD38 สูงขึ้น: กิจกรรมของเอนไซม์ที่ย่อยสลาย NAD+ (เช่น CD38) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่ออายุเพิ่ม ทำให้สัดส่วน NAD+/NADH เปลี่ยนและกระทบการสร้างพลังงานของเซลล์
- ความเสียหายของ DNA & การกระตุ้น PARP มากเกินไป: เมื่อเกิดความเสียหายของ DNA จากความเครียดออกซิเดชัน/รังสี UV/การอักเสบ เอนไซม์ PARP จะใช้ NAD+ เป็นสารตั้งต้น ระดับ NAD+ อาจลดลงรวดเร็ว
- ภาวะอักเสบเรื้อรัง/เมตาบอลิซึมผิดปกติ: โรคอ้วน/ไขมันพอกตับและการอักเสบระดับต่ำสัมพันธ์กับการลดลงของ NAD+ ผ่านเส้นทางภูมิคุ้มกันและเอนไซม์ที่ย่อยสลาย NAD+
- โภชนาการ/พฤติกรรม: การได้รับสารตั้งต้นของเส้นทางสังเคราะห์ (เช่น ไนอาซิน/ทริปโตเฟน) ไม่เพียงพอ การดื่มแอลกอฮอล์มาก (ทำให้สัดส่วน NAD+/NADH เอนเอียง) และการนอนที่ไม่สัมพันธ์กับนาฬิกาชีวภาพ (กระทบเอนไซม์ NAMPT) ล้วนเกี่ยวข้องกับระดับ NAD+
4 ระบบสำคัญที่ NAD+ มีบทบาทเกี่ยวข้องบ่อยในร่างกาย
เสริมพลังงานและการเผาผลาญ
NAD+ ทำหน้าที่ร่วมกับเอนไซม์ในไมโตคอนเดรียเพื่อสร้างพลังงาน ATP เมื่อระดับ NAD+ เหมาะสม ร่างกายจะสร้างพลังงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และอาจช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในผู้ที่ใช้พลังงานสูง
สนับสนุนสมองและระบบประสาท
NAD+ เป็นแหล่งพลังงานสำคัญของเซลล์ประสาท และเกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองส่วนความจำ งานจาก Harvard Medical School (2020) รายงานว่าการเพิ่ม NAD+ ในหลอดเลือดของสัตว์ทดลองสูงวัย อาจช่วยฟื้นฟูการไหลเวียนของสมองและสนับสนุนสุขภาพของเซลล์ประสาท
ปรับสมดุลเมตาบอลิซึมและควบคุมน้ำหนัก
NAD+ เกี่ยวข้องกับกระบวนการเผาผลาญไขมัน (β-oxidation) และการควบคุมสมดุลกลูโคสในเลือด งานจาก Nature Portfolio (2023) ระบุว่า การเสริม NAD+ อาจมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของไมโตคอนเดรียในกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป
NAD+, NMN, และ NR ต่างกันอย่างไร
- NAD+ คือโคเอนไซม์ตัวจริงที่เซลล์ใช้
- NMN (Nicotinamide Mononucleotide) และ NR (Nicotinamide Riboside) คือสารตั้งต้นที่ร่างกายต้องเปลี่ยนเป็น NAD+ ก่อนใช้งาน
- การให้ NAD+ ทางหลอดเลือด (IV Therapy) เพิ่มระดับได้โดยตรงและรวดเร็วกว่าแบบรับประทาน (เชิงกลไก)
เปรียบเทียบ อาหารเสริม NR/NMN vs NAD+ IV Therapy
| ประเด็น | NR/NMN (อาหารเสริม) | NAD+ IV Therapy |
| รูปแบบ | รับประทานที่บ้าน | ให้สารทางหลอดเลือดในคลินิก |
| กลไก | สารตั้งต้น (precursor) แปลงเป็น NAD+ | เป็น NAD+ โดยตรง เข้าสู่กระแสเลือด |
| ความเร็วในการรู้สึกเปลี่ยนแปลง | ค่อยเป็นค่อยไป ต้องทานสม่ำเสมอ | โดยทั่วไปเร็วกว่า เพราะให้โดยตรง |
| การปรับขนาด/สูตร | คงที่ตามฉลากผลิตภัณฑ์ | ปรับโดสได้โดยแพทย์ตามสภาพร่างกาย |
| การติดตาม | ผู้ใช้ติดตามเองเป็นหลัก | มีการประเมินและติดตามโดยแพทย์/ทีมพยาบาล |
*ผลลัพธ์แตกต่างกันในแต่ละบุคคล หลักฐานในมนุษย์ยังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
• อ้างอิงภาพรวมกลไก: Nature Reviews Mol Cell Biol : https://www.nature.com/articles/s41580-020-00313-x | PubMed (Xie 2020) : https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/33028824/
ความปลอดภัย ข้อจำกัด และข้อควรระวังของ NAD+ IV Therapy
ความปลอดภัยโดยภาพรวม
การให้ NAD+ ทางหลอดเลือดควรทำในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน ภายใต้การดูแลของแพทย์และพยาบาลวิชาชีพ มีการคัดกรองสุขภาพก่อนทำและติดตามอาการระหว่างให้สาร
อาการไม่พึงประสงค์ที่อาจพบ (มักชั่วคราว ไม่รุนแรง)
- รู้สึกร้อนวูบวาบหรือหน้าแดง
- คลื่นไส้ เวียนศีรษะ หรือปวดศีรษะเล็กน้อย
- แน่นหน้าอก อึดอัด (ดีขึ้นเมื่อปรับอัตราการหยด)
- ระคายเคืองบริเวณให้สาร
กลุ่มที่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการบำบัด
- โรคหัวใจ หลอดเลือด โรคตับ ไต
- ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- มีประวัติแพ้ยา วิตามินบางชนิด
- ใช้ยาประจำหรืออาหารเสริมหลายชนิด
เคล็ดลับก่อนรับการบำบัด
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ดื่มน้ำ 1–2 แก้วก่อนทำ
- แจ้งแพทย์เรื่องยาประจำ อาหารเสริม หรือสมุนไพร
- หลังทำควรดื่มน้ำและหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักภายในวันเดียวกัน
ผลลัพธ์ที่ผู้รับบำบัดมักสังเกตได้
- รู้สึกสดชื่น มีพลังมากขึ้น
- สมองปลอดโปร่ง และมีสมาธิดีขึ้น
- นอนหลับลึก ตื่นมาสดชื่น
- ผิวพรรณดูมีชีวิตชีวา
- ฟื้นตัวไวหลังออกกำลังกายหรือทำงานหนัก
ผลลัพธ์แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและการประเมินของแพทย์
แนวโน้มหรือเทรนด์ NAD+ ในประเทศไทย
- ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความสนใจในแนวทางเวชศาสตร์ป้องกันและชะลอวัย (Preventive & Anti-Aging Medicine) เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานที่ต้องการดูแลสุขภาพเชิงลึกก่อนเกิดโรค
- แนวทางที่เหมาะสมคือ ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ตรวจสุขภาพก่อนเข้ารับการบำบัด และติดตามอาการอย่างต่อเนื่องทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม
- ก่อนตัดสินใจ ผู้รับบริการควรพิจารณามาตรฐานของคลินิก แหล่งที่มาของสารที่ใช้ รวมถึงระบบการติดตามผลหลังทำ
- การบำบัดด้วย NAD+ จะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เมื่อทำควบคู่กับการดูแลด้านโภชนาการ การนอนหลับที่มีคุณภาพ การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และการจัดการความเครียดในชีวิตประจำวัน
ประสบการณ์การดูแลแบบองค์รวมที่ W9 Wellness
ทุกการบำบัด NAD+ ที่ W9 Wellness Center ดำเนินการโดยพยาบาลวิชาชีพที่ผ่านการอบรมเฉพาะทาง ภายใต้ การดูแลและกำกับโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging Medicine) ก่อนเข้ารับการบำบัด ผู้รับบริการจะได้รับการ ประเมินและปรึกษากับแพทย์ เพื่อวางแนวทางที่เหมาะสมกับสุขภาพและเป้าหมายของแต่ละบุคคล
ให้ W9 Wellness เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณอย่างเข้าใจ ด้วยการฟื้นฟูสมดุลร่างกายจากภายในสู่ระดับเซลล์ เพื่อให้คุณรู้สึกมีพลัง สดชื่น และพร้อมใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: NAD+ IV ปลอดภัยไหม?
A: ปลอดภัยเมื่ออยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และพยาบาลวิชาชีพ
Q: ต้องเตรียมตัวยังไงก่อนทำ NAD+ IV?
A: พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำ และแจ้งประวัติสุขภาพก่อนเข้ารับบริการ
Q: ควรทำบ่อยแค่ไหน?
A: โดยทั่วไปแนะนำ 1–2 ครั้งต่อเดือน หรือปรึกษาแพทย์ตามเป้าหมายสุขภาพ
Q: ทำร่วมกับ Vitamin IV Drip ได้ไหม?
A: ได้ มักใช้ร่วมกันเพื่อสนับสนุนพลังงานและฟื้นฟูสุขภาพโดยรวม
Q: ทำไมระดับ NAD+ ถึงลดลงเมื่ออายุมากขึ้น?
A: งานทบทวนเสนอว่าเกี่ยวข้องกับเอนไซม์ที่ย่อยสลาย NAD+ (เช่น CD38) ที่เพิ่มขึ้น การกระตุ้น PARP จากความเสียหายของ DNA และปัจจัยไลฟ์สไตล์บางอย่าง เช่น การนอนผิดเวลา โภชนาการ และแอลกอฮอล์ ผลกระทบแตกต่างกันในแต่ละบุคคล
แหล่งอ้างอิงหลัก
- Nature Reviews Molecular Cell Biology – NAD+ metabolism and its roles in cellular processes during ageing
- Harvard Medical School – Rewinding the Clock (Animal Study)
- Mayo Clinic News Network – CD38 linked to age-related NAD+ decline
- PubMed (Lautrup, 2024) – Roles of NAD+ in Health and Aging
- PubMed (Xie, 2020) – NAD+ metabolism: mechanisms and therapeutic potential

