ฟื้นพลังระดับเซลล์ คืนความสดชื่น และชะลอวัยจากภายใน

แม้เราจะนอนเพียงพอ กินดี และออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่หลายคนยังรู้สึก “พลังไม่เหมือนเดิม” หรือ “สมองล้าโดยไม่ทราบสาเหตุ” หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มักถูกมองข้ามคือระดับของ NAD+ (Nicotinamide Adenine Dinucleotide) ซึ่งเป็นสารชีวโมเลกุลสำคัญในทุกเซลล์ของร่างกาย และมีแนวโน้มลดลงตามอายุ

NAD+ คืออะไร และทำงานอย่างไรในร่างกาย

NAD+ เป็นโคเอนไซม์ (Coenzyme) ที่พบในทุกเซลล์ของมนุษย์ ทำหน้าที่สำคัญในการเปลี่ยนพลังงานจากอาหารให้เป็นพลังงานที่เซลล์ใช้ได้จริงในรูป ATP (Adenosine Triphosphate)  และยังเป็นสารตั้งต้นขององค์ประกอบของสาย DNA เมื่อระดับ NAD+ ลดลง กระบวนการสร้างพลังงานและซ่อมแซมเซลล์จะทำงานได้ไม่เต็มที่ ซึ่งอาจสัมพันธ์กับความอ่อนล้า ภาวะสมองล้า และสัญญาณการเสื่อมระดับเซลล์

NAD+ ยังเกี่ยวข้องกับ

  • การกระตุ้นยีน Sirtuins ซึ่งมีบทบาทในกระบวนการชะลอความเสื่อมและการควบคุมการอักเสบ
  • การซ่อมแซม DNA และการคงความเสถียรของ Gene
  • การทำงานของระบบประสาทและการสื่อสัญญาณระหว่างเซลล์
  • การเผาผลาญพลังงานและสมดุลเมตาบอลิซึม

อ่านเพิ่มเติม

กลไกสำคัญของ NAD+

ลองนึกว่า NAD+ คือ “สะพานส่งพลังงาน” ที่เชื่อมอาหารที่เราทานกับพลังงานที่เซลล์ใช้จริง (ATP) เมื่อสะพานนี้อ่อนแรงลง เซลล์ผลิตพลังงานได้ลดลง สมองอาจล้า ระบบซ่อมแซมทำงานช้าลง แต่เมื่อระดับ NAD+ สมดุล กลไกระดับเซลล์จะกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานของยีน Sirtuins (SIRT1–SIRT7) ซึ่งสัมพันธ์กับความยืดหยุ่นของอายุเซลล์ก็จะทำงานสมดุลขึ้นเช่นกัน

หมายเหตุ: หลักฐานส่วนหนึ่งมาจากงานวิจัยเชิงกลไกและสัตว์ทดลอง เช่น Harvard Medical School “Rewinding the clock” ซึ่งยังต้องมีการศึกษาต่อในมนุษย์เพื่อยืนยันประสิทธิผลโดยตรง

ปัจจัยที่ทำให้ระดับ NAD+ ในร่างกายลดลง

ระดับ NAD+ เปลี่ยนแปลงได้จากหลายปัจจัย จากการทบทวนศึกษาในมนุษย์พบความเชื่อมโยงดังนี้

NAD+ Therapy
  • อายุที่มากขึ้น & เอนไซม์ CD38 สูงขึ้น: กิจกรรมของเอนไซม์ที่ย่อยสลาย NAD+ (เช่น CD38) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่ออายุเพิ่ม ทำให้สัดส่วน NAD+/NADH เปลี่ยนและกระทบการสร้างพลังงานของเซลล์
  • ความเสียหายของ DNA & การกระตุ้น PARP มากเกินไป: เมื่อเกิดความเสียหายของ DNA จากความเครียดออกซิเดชัน/รังสี UV/การอักเสบ เอนไซม์ PARP จะใช้ NAD+ เป็นสารตั้งต้น ระดับ NAD+ อาจลดลงรวดเร็ว
  • ภาวะอักเสบเรื้อรัง/เมตาบอลิซึมผิดปกติ: โรคอ้วน/ไขมันพอกตับและการอักเสบระดับต่ำสัมพันธ์กับการลดลงของ NAD+ ผ่านเส้นทางภูมิคุ้มกันและเอนไซม์ที่ย่อยสลาย NAD+
  • โภชนาการ/พฤติกรรม: การได้รับสารตั้งต้นของเส้นทางสังเคราะห์ (เช่น ไนอาซิน/ทริปโตเฟน) ไม่เพียงพอ การดื่มแอลกอฮอล์มาก (ทำให้สัดส่วน NAD+/NADH เอนเอียง) และการนอนที่ไม่สัมพันธ์กับนาฬิกาชีวภาพ (กระทบเอนไซม์ NAMPT) ล้วนเกี่ยวข้องกับระดับ NAD+

4 ระบบสำคัญที่ NAD+ มีบทบาทเกี่ยวข้องบ่อยในร่างกาย

เสริมพลังงานและการเผาผลาญ
NAD+ ทำหน้าที่ร่วมกับเอนไซม์ในไมโตคอนเดรียเพื่อสร้างพลังงาน ATP เมื่อระดับ NAD+ เหมาะสม ร่างกายจะสร้างพลังงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และอาจช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในผู้ที่ใช้พลังงานสูง

สนับสนุนสมองและระบบประสาท
NAD+ เป็นแหล่งพลังงานสำคัญของเซลล์ประสาท และเกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองส่วนความจำ งานจาก Harvard Medical School (2020) รายงานว่าการเพิ่ม NAD+ ในหลอดเลือดของสัตว์ทดลองสูงวัย อาจช่วยฟื้นฟูการไหลเวียนของสมองและสนับสนุนสุขภาพของเซลล์ประสาท

ปรับสมดุลเมตาบอลิซึมและควบคุมน้ำหนัก
NAD+ เกี่ยวข้องกับกระบวนการเผาผลาญไขมัน (β-oxidation) และการควบคุมสมดุลกลูโคสในเลือด งานจาก Nature Portfolio (2023) ระบุว่า การเสริม NAD+ อาจมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของไมโตคอนเดรียในกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป

NAD+ Therapy

NAD+, NMN, และ NR ต่างกันอย่างไร 

  • NAD+ คือโคเอนไซม์ตัวจริงที่เซลล์ใช้
  • NMN (Nicotinamide Mononucleotide) และ NR (Nicotinamide Riboside) คือสารตั้งต้นที่ร่างกายต้องเปลี่ยนเป็น NAD+ ก่อนใช้งาน
  • การให้ NAD+ ทางหลอดเลือด (IV Therapy) เพิ่มระดับได้โดยตรงและรวดเร็วกว่าแบบรับประทาน (เชิงกลไก)

เปรียบเทียบ อาหารเสริม NR/NMN vs NAD+ IV Therapy

ประเด็นNR/NMN (อาหารเสริม)NAD+ IV Therapy
รูปแบบรับประทานที่บ้านให้สารทางหลอดเลือดในคลินิก
กลไกสารตั้งต้น (precursor) แปลงเป็น NAD+เป็น NAD+ โดยตรง เข้าสู่กระแสเลือด
ความเร็วในการรู้สึกเปลี่ยนแปลงค่อยเป็นค่อยไป ต้องทานสม่ำเสมอโดยทั่วไปเร็วกว่า เพราะให้โดยตรง
การปรับขนาด/สูตรคงที่ตามฉลากผลิตภัณฑ์ปรับโดสได้โดยแพทย์ตามสภาพร่างกาย
การติดตามผู้ใช้ติดตามเองเป็นหลักมีการประเมินและติดตามโดยแพทย์/ทีมพยาบาล

*ผลลัพธ์แตกต่างกันในแต่ละบุคคล หลักฐานในมนุษย์ยังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
• อ้างอิงภาพรวมกลไก: Nature Reviews Mol Cell Biol : https://www.nature.com/articles/s41580-020-00313-x | PubMed (Xie 2020) : https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/33028824/

ความปลอดภัย ข้อจำกัด และข้อควรระวังของ NAD+ IV Therapy

ความปลอดภัยโดยภาพรวม 

การให้ NAD+ ทางหลอดเลือดควรทำในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน ภายใต้การดูแลของแพทย์และพยาบาลวิชาชีพ มีการคัดกรองสุขภาพก่อนทำและติดตามอาการระหว่างให้สาร

อาการไม่พึงประสงค์ที่อาจพบ (มักชั่วคราว ไม่รุนแรง)

  • รู้สึกร้อนวูบวาบหรือหน้าแดง
  • คลื่นไส้ เวียนศีรษะ หรือปวดศีรษะเล็กน้อย
  • แน่นหน้าอก อึดอัด (ดีขึ้นเมื่อปรับอัตราการหยด)
  • ระคายเคืองบริเวณให้สาร

กลุ่มที่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการบำบัด

  • โรคหัวใจ หลอดเลือด  โรคตับ ไต
  • ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • มีประวัติแพ้ยา วิตามินบางชนิด
  • ใช้ยาประจำหรืออาหารเสริมหลายชนิด

เคล็ดลับก่อนรับการบำบัด

  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ดื่มน้ำ 1–2 แก้วก่อนทำ
  • แจ้งแพทย์เรื่องยาประจำ อาหารเสริม หรือสมุนไพร
  • หลังทำควรดื่มน้ำและหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักภายในวันเดียวกัน

ผลลัพธ์ที่ผู้รับบำบัดมักสังเกตได้

  • รู้สึกสดชื่น มีพลังมากขึ้น
  • สมองปลอดโปร่ง และมีสมาธิดีขึ้น
  • นอนหลับลึก ตื่นมาสดชื่น
  • ผิวพรรณดูมีชีวิตชีวา
  • ฟื้นตัวไวหลังออกกำลังกายหรือทำงานหนัก

ผลลัพธ์แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและการประเมินของแพทย์

แนวโน้มหรือเทรนด์ NAD+ ในประเทศไทย

  • ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความสนใจในแนวทางเวชศาสตร์ป้องกันและชะลอวัย (Preventive & Anti-Aging Medicine) เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานที่ต้องการดูแลสุขภาพเชิงลึกก่อนเกิดโรค
  • แนวทางที่เหมาะสมคือ ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ตรวจสุขภาพก่อนเข้ารับการบำบัด และติดตามอาการอย่างต่อเนื่องทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม
  • ก่อนตัดสินใจ ผู้รับบริการควรพิจารณามาตรฐานของคลินิก แหล่งที่มาของสารที่ใช้ รวมถึงระบบการติดตามผลหลังทำ
  • การบำบัดด้วย NAD+ จะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เมื่อทำควบคู่กับการดูแลด้านโภชนาการ การนอนหลับที่มีคุณภาพ การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และการจัดการความเครียดในชีวิตประจำวัน

ประสบการณ์การดูแลแบบองค์รวมที่ W9 Wellness

ทุกการบำบัด NAD+ ที่ W9 Wellness Center ดำเนินการโดยพยาบาลวิชาชีพที่ผ่านการอบรมเฉพาะทาง ภายใต้ การดูแลและกำกับโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging Medicine) ก่อนเข้ารับการบำบัด ผู้รับบริการจะได้รับการ ประเมินและปรึกษากับแพทย์ เพื่อวางแนวทางที่เหมาะสมกับสุขภาพและเป้าหมายของแต่ละบุคคล

ให้ W9 Wellness เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณอย่างเข้าใจ ด้วยการฟื้นฟูสมดุลร่างกายจากภายในสู่ระดับเซลล์ เพื่อให้คุณรู้สึกมีพลัง สดชื่น และพร้อมใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: NAD+ IV ปลอดภัยไหม?
A:
ปลอดภัยเมื่ออยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และพยาบาลวิชาชีพ

Q: ต้องเตรียมตัวยังไงก่อนทำ NAD+ IV?
A:
พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำ และแจ้งประวัติสุขภาพก่อนเข้ารับบริการ

Q: ควรทำบ่อยแค่ไหน?
A:
โดยทั่วไปแนะนำ 1–2 ครั้งต่อเดือน หรือปรึกษาแพทย์ตามเป้าหมายสุขภาพ

Q: ทำร่วมกับ Vitamin IV Drip ได้ไหม?
A:
ได้ มักใช้ร่วมกันเพื่อสนับสนุนพลังงานและฟื้นฟูสุขภาพโดยรวม

Q: ทำไมระดับ NAD+ ถึงลดลงเมื่ออายุมากขึ้น?
A:
งานทบทวนเสนอว่าเกี่ยวข้องกับเอนไซม์ที่ย่อยสลาย NAD+ (เช่น CD38) ที่เพิ่มขึ้น การกระตุ้น PARP จากความเสียหายของ DNA และปัจจัยไลฟ์สไตล์บางอย่าง เช่น การนอนผิดเวลา โภชนาการ และแอลกอฮอล์ ผลกระทบแตกต่างกันในแต่ละบุคคล

แหล่งอ้างอิงหลัก

  1. Nature Reviews Molecular Cell Biology – NAD+ metabolism and its roles in cellular processes during ageing
  2. Harvard Medical School – Rewinding the Clock (Animal Study)
  3. Mayo Clinic News Network – CD38 linked to age-related NAD+ decline
  4. PubMed (Lautrup, 2024) – Roles of NAD+ in Health and Aging
  5. PubMed (Xie, 2020) – NAD+ metabolism: mechanisms and therapeutic potential

Share : 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ขนาดไม่เคยกังวล แต่กังวลเรื่องไม่แข็ง น้องชายไม่แข็ง ปัญหาหนักใจของผู้ชายหลายคน เกิดจากภาวะที่อวัยวะเพศไม่แข็งตัว

“สมดุลลำไส้”รู้หรือไม่? 70-80% ของ “ระบบภูมิต้านทาน” ในร่างกายเราทั้งหมด

Analog Wellness เทรนด์สุขภาพแนวใหม่ที่ช่วยคืนสมดุลชีวิตจากโลกดิจิทัล ด้วยแนวทางธรรมชาติ ลดความเครียด