Chelation Therapy
โปรแกรมที่ช่วยขับสารพิษและสิ่งเจือปนในร่างกายที่รับเข้ามาสะสมอยู่และไม่สามารถกำจัดออกได้เอง อันเป็นสาเหตุของการอักเสบและเจ็บป่วย

WHAT' S CHELATION
การให้คีเลชั่นบำบัดเป็นการกำจัดสารพิษโลหะหนัก โดยการใช้สารจับโลหะ (EDTA) ผสมกับวิตามินและแร่ธาตุ โดยให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ เพื่อช่วยในการขับสารพิษโลหะหนัก ทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายกลับมาทำงานได้อย่างสมดุลและมีประสิทธิภาพ
BENEFITS
- ความต้องการวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย
- การเผาผลาญสารอาหารต่างๆ เพื่อสร้างพลังงานเซลล์
- สมดุลของการสร้างสารสื่อประสาท
- การสัมผัส/ขับสารพิษของร่างกาย
- สมดุลของจุลินทรีย์ลำไส้ ระบบทางเดินอาหาร
- ความเสียหายของเซลลที่เกิดจากอนุมูลอิสระ


ข้อดีของคีเลชั่นบำบัดขจัดสารพิษโลหะหนักกับเรา
- เพิ่มคุณภาพการนอนหลับ
- เพิ่มประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก
- ช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส สดใสจากภายใน
- เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนโลหิต
- เสริมการรักษาภูมิแพ้และภาวะลำไส้รั่ว
**ผลลัพธ์อาจแตกต่างและชัดเจนกันไปในแต่ละบุคคล
เมื่อไหร่ที่ร่างกายควรทำคีเลชั่น
การได้รับมลภาวะ อยู่ในสภาวะเสี่ยงสารพิษบ่อยครั้ง หรือผลการตรวจร่างกายพบโลหะหนักชนืดเรื้อรัง มีสารปรอทเข้าสู่ร่างกายเป็นระยะเวลานาน สารเคมีที่สะสมในเนื้อเยื่อชนิดต่างๆของร่างกาย เช่น กระดูก กล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อไขมัน ที่ยังขัดขวางการทำงานของเอนไซม์และแร่ธาตุที่จำเป็น ก่อให้เกิดผลระทบหลายระบบสุขภาพดังนี้
- การปวดศีรษะบ่อย คลื่นไส้ เวียนหัว
- มีไข้ต่ำๆ ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด
- อ่อนเพลียง่าย ง่วงนอน สมาธิไม่ดี หลงลืมบ่อย
- เหนื่อยง่ายขึ้น มีกลิ่นปาก ปากเปื่อย มีกลิ่นตัวแรง
- เบื่ออาหาร ท้องอืด ท้องเสีย ผายลมบ่อยๆ
- ดูดซึมสารอาหารพวกแป้งมาก แต่ระบบเผาผลาญน้อย อ้วนง่าย
- ขับถ่ายและขับสารพิษออกเองยาก มีสิวเสี้ยนบนใบหน้า ฝ้าดำ
- ท้องผูกเรื้อรัง ถ่ายยาก ไม่เป็นเวลา
- พบอาการของโรคผิวหนังเรื้อรัง ผื่นขึ้นตามตัว และเป็นฝีบ่อย
- มีอาการหอบหืด ภูมิแพ้ และลมพิษได้ง่าย

W9 Wellness กับการคีเลชั่นบำบัด
การกำจัดโลหะหนักและสารพิษออกจากร่างกาย เป็นการดูแลป้องกัน W9 Wellness ใช้ในการดูแลรักษาแบบองค์รวม โดยคีเลชั่นบำบัด ยังเติมส่วนผสมของวิตามินต่างๆ ที่จำเป็นต่อกระบวนการทำงานในระดับเซลล์ รวมทั้งการดูแลผู้ป่วยทุกขั้นตอน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มานานในการทำคีเลชั่นบำบัด
การเตรียมตัวก่อนและระหว่างคีเลชั่นบำบัด
- ระยะเวลาในการบริการ ต่อครั้ง ประมาณ 1.5-2.0 ชม.
- ระหว่างที่ให้น้ำเกลือสามารถผักผ่อน ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ หรือฟังเพลง ได้ตามปกติหลังจากนั้นสามารถประกอบกิจกรรมได้ตามปกติไม่จำเป็นต้องนอนพัก
- ควรพบแพทย์ตรวจร่างกายเพื่อประเมินปัญหาที่เป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การตรวจประสิทธิภาพการทำงานของไต ก่อนการเข้ารับบริการในครั้งแรก - ระหว่างการรักษา ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากขึ้น แนะนำให้ดื่มน้ำผลไม้เพราะระหว่างทำอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีวิตามิน แร่ธาตุ พอเพียงต่อการเสริมสร้าง และซ่อมแซมร่างกาย