ค้นหา
ปิดช่องค้นหานี้

ภูมิแพ้อาหารแฝง ไม่ร้ายแรง แต่เรื้อรัง

คุณคุ้นเคยกับอาการเหล่านี้บ้างหรือไม่ ⁉

  • ท้องอืดท้องเฟ้อง่าย
  • เรอหรือผายลมบ่อย
  • ท้องผูกประจำ
  • มีสิวอักเสบไม่หาย
  • มีผื่นตามจุดต่างๆของร่างกาย หรือคันผิวโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • ปวดหัวแบบเรื้อรัง ไมเกรน
  • อ่อนเพลียเรื้อรัง
  • น้ำมูกไหลไม่ทราบสาเหตุ

อาการที่ คุณ คุ้นเคยนี้ กำลังบ่งบอกว่า “คุณมีภาวะแพ้อาหารแฝงอยู่”
อย่าปล่อยให้อาการเหล่านี้ เป็นเพียง “ความเคยชิน” นะคะ

การตรวจวิเคราะห์ภูมิแพ้อาหารแฝง “Food Inflammation Test” จำนวน 132 รายการ
เพื่อการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของการอักเสบที่เกิดจากอาหารโดยแท้จริง

หลายท่านคงคุ้นหูกับคำว่า “ภูมิแพ้อาหารแฝง” กันมาพอสมควร แต่ท่านทราบมั้ยคะ ว่าภูมิแพ้อาหารแฝงนี้มี 2 แบบ และแตกต่างกันอย่างไร เราควรตรวจไปพื่ออะไร มาหาคำตอบกันค่ะ

Food Inflammation Test ต่างกับ Food Intolerance Test อย่างไร ⁉

Food Intolerance Test จะเป็นการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงจากแอนติบอดี้ IgG ซึ่งเกิดจากอาหารที่เราทานบ่อย หรือทานเป็นประจำในช่วงนั้น จะทำให้ค่าผลการตรวจจะขึ้นสูงเป็นพิเศษ ซึ่งผลการตรวจ Food Intolerance นี้จะช่วยให้เราหมุนเวียนการรับประทานอาหารให้หลากหลายมากยิ่งขึ้นค่ะ

ส่วน Food Inflammation Test สามารถตรวจทั้งแอนติบอดี้ IgG และสารเชิงซ้อน IC-C3d ไปพร้อมๆกันค่ะ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ได้ผลที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากกว่าการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงปกติ ที่ตรวจเพียง IgG ได้เพียงอย่างเดียว

Food Inflammation Test จะรายงานผลถึง 132 รายการ ซึ่งจะประกอบด้วยรายการอาหารที่ก่อให้เกิดการอักเสบในร่างกาย และสีผสมอาหารรวมถึงสารกันบูดที่เราควรหลีกเลี่ยง ส่วนจะต้องเลี่ยงนานแค่ไหน อยู่ที่ผลการตรวจของเราแต่ละคน ซึ่งการตรวจ Food Inflammation Test จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาอาการที่เกิดจากภูมิแพ้อาหารแฝง โดยการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่เป็นผลบวกได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ

โดยสรุปแล้ว การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงด้วย Food Inflammation Test จะช่วยให้เราทราบที่มาของอาการที่คุ้นเคยเหล่านั้น และแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดโดยไม่ต้องเดาค่ะ ซึ่งเมื่อผลการตรวจออกมา แพทย์จะแนะนำให้ปรับการรับประทานอาหาร โดยให้หลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดการอักเสบดังกล่าวค่ะ และเมื่อผ่านไป 3-6 เดือน จะนัดตรวจอีกครั้งนะคะ เพื่อเป็นการติดตามผลว่าอาหารที่เราหลีกเลี่ยงไปนั้น ต้องเลี่ยงต่อหรือรับประทานได้แล้ว และอาการต่างๆที่เคยมีดีขึ้นหรือไม่อย่างไรค่ะ

Share : 

บทความที่เกี่ยวข้อง

หาไม่ได้บนโลกใบนี้ค่ะ คือคุณจะไปหากินที่ไหนก็ไม่ได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่แม่มอบให้กับลูก เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายจากร่างกายของเราเอง มอบไปสู่ลูก “กินโพรไบโอติกส์ ตอนไหนให้เห็นผล” จุลินทรีย์กับความเป็นแม่ สำหรับแม้ว จุลินทรีย์กับความเป็นแม่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก แม้วเริ่มต้นจากตอนที่ท้องลูกสาว แม้วเป็นคนกลัวเจ็บมากที่สุดบนโลกใบนี้ ตอนที่รู้ว่าท้องเนี่ย บอกคุณหมอว่า ทำยังไงก็ได้นะคะที่ไม่ให้เจ็บ จะบล็อคหลัง ฉีดยาอะไรให้เราคลอด โดยที่เราไม่รู้สึกเจ็บเลย แต่คุณหมอบอกว่าการคลอดธรรมชาติเนี่ย มันจะมีจุลินทรีย์ที่ดีมากๆ เลย ที่เราจะมอบให้ลูก ซึ่งเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่เราจะให้ลูกก่อนที่เค้าจะออกมาบนโลกใบนี้ค่ะ นอกจากที่จุลินทรีย์ตอนคลอดแล้วก็ยังมีจุลินทรีย์ในน้ำนมแม่ ซึ่งมีส่วนสำคัญมากสำหรับลูกของเรานะคะ คือแม้วให้นมแม่กับลูก 5 ปีเต็ม (ร้อยเปอร์เซ็นต์) แล้วลูกสาวก็เป็นเด็กที่แข็งแรงมากๆ เลยค่ะ สิ่งที่สามที่แม้วโฟกัสหลังจากนั้นก็คือ โภชนาการ หลังจากเค้าเริ่มอาหารเสริม คือโภชนาการเนี่ยมันจะควบคู่กันระหว่าง Educational กับ Lifestyle น้ำตาลเนี่ยคือศัตรูตัวร้ายฉกาจสุดๆ สำหรับจุลินทรีย์เลย เพราะมนุษย์เรามีอวัยวะ 32 ครบ แต่ใน 32 นั้นเนี่ย มันก็สอดแทรกด้วยจุลินทรีย์ทั้งหมดเนี่ย 90% เพราะฉะนั้นก็ค่อยๆ สอดแทรกให้เค้าไป ให้เค้าเรียนรู้จากการที่เราทำให้เค้าดูค่ะ แล้วก็อีกอย่างคือแม้วจะเลือกทำอาหารที่สด เราจะไม่ให้เค้าทานพวกอาหารแปรรูปทั้งหลายแหล่ เพราะว่ากว่าจะออกมาเป็นอาหารแปรรูปได้ขนาดนี้ มันก็ต้องผ่านกระบวนการเยอะ […]

อ้วนลงพุง อย่ามองว่าเป็นเรื่องปกติ “อ้วนลงพุง” ผู้หญิงหลายคนคงไม่มีใครชอบ แต่รู้หรือไม่ว่าที่จริงแล้วสาเหตุที่อ้วนลงพุงอยู่นี้อาจเสี่ยงภาวะโรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ

ระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System) ทำหน้าที่คอยต้านและกำจัดเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย การดูแลรักษาระบบภูมิคุ้มกันให้พร้อมสู้เอาไว้