ค้นหา
ปิดช่องค้นหานี้
สารเคมี

ชีวิตประจำวันกับ สารเคมี ใกล้ตัว

เคยแอบคิดกันบ้างไหมครับ? ว่าในแต่ละวันที่แสนจะธรรมดาของพวกเราหลายคนนั้นได้รับ สารเคมี อะไรเข้าสู่ร่างกายบ้าง?

ทุกสิ่งรอบตัวเราล้วนปนเปื้อนไปด้วย สารเคมี ต่างๆ แม้กระทั้งในบ้านที่เราใช้ชีวิตอยู่ในทุกวัน ทั้งของใช้ในชีวิตประจำวันต่างๆ เช่น ยาสีฟัน แปรงสีฟัน น้ำหอม สเปย์ โรลออนเสื้อผ้า เครื่องสำอาง อาหาร ควันรถ นับได้ว่า พวกเราคือประชากรโลกยุคแรก ที่ต้องเผชิญกับสารพิษ สารเคมี และมลภาวะมากมายขนาดนี้ในแต่ละวัน นี่ยังไม่นับ มลภาวะทางเสียง มลภาวะทางอารมณ์ (Toxic people) หรือ PM 2.5 ตัวร้าย ซึ่งพวกเราส่วนใหญ่น่าจะ “คุ้นเคย” กันดีอยู่แล้ว แต่พอรวมกันทุกตัว ก็อาจจะเป็นปัจจัยร่วมในหลายปัญหาเรื้อรังทางสุขภาพได้

สารเคมี ในสิ่งแวดล้อม (Environmental Chemicals)

การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ภาคอุสาหกรรมทั่วโลกทยอยเปิดสายการผลิตสารเคมีสังเคราะห์ ชนิดใหม่ขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการใช้เป็นจำนวน มากกว่า 140,000 ชนิด บางชนิดที่มีความต้องการสูงตามการเติบโตของประชากร ก็ยังมีแนวโน้มการผลิตเพิ่มขึ้นทุกปีต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายสิบปี ยกตัวอย่างเช่น พลาสติก ปุ๋ยเคมี และยาฆ่าแมลง ซึ่งเรารู้กันดีว่า สุดท้ายสสารที่ผลิตออกมามันก็ “ต้องมีที่อยู่” แล้วมันก็ไม่ได้คงอยู่แค่ปีเดียวด้วย หลายชนิดคงอยู่ได้นานหลายสิบปี ไม่ว่าจะเอาไปเททิ้ง หรือเก็บไว้ที่ไหนก็ตามแต่ สุดท้ายวันนึงมันก็หาทาง “วนมาหาเรา” ได้ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง

สารปรอทปนเปื้อนในปลาทะเล (Mercury in Fish)

สารปรอทถือเป็นสารพิษโลหะหนักซึ่งใกล้ตัวเรามากที่สุด ทางศูนย์เวลเนส ที่หมอทำงานอยู่ ก็มีการตรวจคัดกรองระดับโลหะหนัก (Toxic heavy metals) โดยพบว่า คนสุขภาพดีทั่วไปที่เข้ามารับการตรวจมีระดับปริมาณสารปรอทในเลือดสูงกว่าค่าปกติเป็นจำนวนเกือบ 30%

การรับสารพิษระดับต่ำ ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน (Chronic Low-level toxicity; No acceptable level)

สารอันตราย

มีงานวิจัยออกมาบอกว่าที่จริงแล้ว สารพิษ ไม่ว่าจะระดับไหนก็ไม่ปลอดภัยทั้งนั้นนะครับ แค่สูงกว่า 10mcg/dl ในคนท้องก็มีผลกับ IQ ของเด็ก หรือสูงกว่า 5 mcg/dl ในเด็กก็ไม่ปลอดภัยแล้ว หากร่างกายได้รับสารพิษหลายๆ ชนิดสะสมรวมกัน อาจก่อให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย ลดการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายสร้างขึ้นตามธรรมชาติ ก่อให้เกิดการอักเสบของเซลล์ เพิ่มความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิต้านทาน มีผลต่อระบบฮอร์โมน ท้ายที่สุดอาจนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งได้

และถึงแม้ร่างกายเราจะมีระบบการขับสารพิษ แต่ถ้าเทียบกับปริมาณที่เราได้รับเข้าไปก็ไม่สามารถขับสารพิษออกมาได้หมด เพราะประมาณ 10% มันเข้าไปซ่อนในเนื้อเยื่ออื่นได้ เช่น ตับ ไต และระบบประสาท และอวัยวะที่มันสามารถสะสมได้ปริมาณมากที่สุด ก็คือ กระดูก หากเข้าไปสะสมอยู่แล้ว มันจะยังคงอยู่กับเราไปถึง 20-30 ปีเลยทีเดียว

โดยของเสียทั้งหมดสามารถขับออกจากร่างกายได้ 6 ช่องทาง ได้แก่ ตับ ไต ปอด ลำไส้ใหญ่ ผิวหนัง และระบบน้ำเหลือง โดยอวัยวะหลักที่มีความสำคัญที่สุดคือ ตับ Liver Detoxification เป็นการบวนการที่ต้องการสารอาหารและวิตามินหลากหลายชนิดในปริมาณที่สูงมากน้อยต่างกัน ขึ้นกับปริมาณสารพิษที่เรารับเข้ามา ดังนั้นปริมาณสารพิษจึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนเราต้องใช้วิตามินบางชนิดสูงกว่าระดับที่แนะนำต่อวันโดยทั่วไป

การที่ฉลากบอกว่า ปลอดภัยในปริมาณน้อย พึงระลึกเสมอว่า เค้าทดลองใช้สารแค่ชนิดเดียว แล้ววัดระดับที่ก่ออาการได้ เพราะในคนปกติรับเข้าก็ขับออกได้ทัน แต่ในชีวิตจริงเรารับสารพิษจากหลายแหล่ง และสะสมมากขึ้นในทุกๆ บางคนร่างกายขับของเสียได้ดีก็ดีไป แต่ในบางคนที่ร่างกายขับของเสียได้ไม่ดีก็ก่อให้เกิดการสะสม คั่งค้าง ทำให้เกิดโรคได้

สารเคมี

ที่พูดมาทั้งหมด หมอไม่ใช่จะให้ไปอยู่ป่าว อยู่ถ้ำ แค่อยากให้ตระหนักรู้ ถึงข้อจำกัดของร่างกายในการขับสารพิษ จะได้สามารถประเมินสารพิษรวม (Body burden) ในแต่ละวันเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง

เพียงเท่านี้ เราก็จะสุขภาพดี สดชื่นทั้งร่างกาย จิตใจแจ่มใส มีความสุขกับปัจจุบัน และมีคุณภาพชีวิตที่ดี อย่างยั่งยืนครับ

หนังสือ Healthitude สุข(อุดม)คติ
นพ.พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฎ์ (หมอบาย)

Share : 

บทความที่เกี่ยวข้อง

สถานการณ์ในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เราใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น เพราะตั้งแต่มีเจ้าไวัรัสเข้ามาหลายคนก็เริ่มดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการล้างมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และที่สำคัญการทำร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ กินอาหารที่ส่งเสริมการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยลดความเสี่ยงหรือความรุนแรงจากเชื้อไวรัสต่าง ๆ ได้ และตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกันที่หลายคนมองหาก็คงหนีไม่พ้น วิตามินเสริมภูมิคุ้มกัน
เนื่องจากโรคอัลไซเมอร์ สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ และปัจจัยทางพันธุกรรม อาจมีผลมากถึง 80%

รู้หน้าไม่รู้ใจ ยังคงเป็นคำพูดที่นิยามการทำความรู้จักใครสักคนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ “คนรัก” ที่แรกๆ น้ำต้มผักก็ว่าหวาน นานๆ ก็พบปัญหาที่มีผลต่อความสัมพันธ์ให้ขื่นขม อย่างปัญหาด้าน สมรรถภาพทางเพศ ของท่านชาย ที่มักมีความเชื่อผิดๆ ว่าเกี่ยวกับอายุที่มากขึ้น แต่แท้จริงแล้ว ปัญหาร่างกายไม่แข็ง (แรง) ของท่านชายไม่ได้เกี่ยวกับอายุเพียงอย่างเดียว แต่เกี่ยวกับระบบภายในร่างกายอีกหลายระบบ และถ้าไม่รีบแก้ ก็อาจจะแย่กับความสัมพันธ์ ระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำ ฮอร์โมนเพศชาย หรือ เทสโทสเตอโรน (Testosterone) ฮอร์โมนแห่งความคึกคักของท่านชาย มีบทบาทสำคัญที่สุดในการกระตุ้นลักษณะการแสดงออกของความเป็นชาย รวมถึงความต้องการทางเพศ และการสร้างเชื้ออสุจิ หากเทสโทสเตอโรนต่ำลง จึงมีผลให้ สมรรถภาพทางเพศ ลดต่ำลงตามไปด้วย หรืออาจเกิดภาวะความไม่สมบูรณ์ของอวัยวะเพศ และทำให้คุณภาพ และปริมาณตัวอสุจิลดลงได้ โดยที่บางคนมีระดับเทสโทสเตอโรนต่ำตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 ปี เนื่องจากปัจจัยทาง พันธุกรรม หรือมีไลฟ์สไตล์ที่มีผลต่อการเสียสมดุลฮอร์โมนเพศ ทำให้ฮอร์โมนเพศตก หรืออย่างในผู้ที่มีน้ำหนักเกินนั้น ตามหลักการแล้วจะมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูง แต่เมื่อร่างกายรับน้ำหนักที่มากเกินไปนานๆ ก็อาจทำให้ร่างกายเกิดความเสื่อม เกิดการอักเสบ ซึ่งเหล่านี้มีผลให้ร่างกายเกิด ความเครียดสะสม และส่งผลให้ระดับเทสโทสเตอโรนต่ำลงได้ ภาวะความเครียด  อาจเกิดได้จาก ความเครียด จากการทำงานที่คุณรู้ตัว […]