Search
Close this search box.

W9 NAD+ Therapy สูตรเฉพาะบุคคล

นวัตกรรมล่าสุดของการชะลอวัย ชะลอการเสื่อมของสมอง เซลล์เกือบทุกชนิด รวมทั้งชะลอการลุกลามของโรคที่เกี่ยวข้องกับอายุได้อีกด้วย

NAD+ คืออะไร

Nicotinamide adenine dinucleotide (NAD+)  คือนวัตกรรมล่าสุดของการชะลอวัย ชะลอการเสื่อมของสมอง และการเสื่อมของเซลล์เกือบทุกชนิด

NAD+ คือโคเอนไซม์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ พบได้ในเซลล์ทั่วไป ทำหน้าที่ส่งเสริมการงอกใหม่ของเซลล์ และการแปลงพลังงานของเซลล์ เป็นสารประกอบสำคัญสำหรับร่างกายมนุษย์ ช่วยซ่อมแซม DNA ซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ รวมถึงระบบเมตาบอลิซึม (การเผาผลาญ) ของเซลล์ให้ดีขึ้น และการเพิ่มระดับ NAD+ ในร่างกาย ยังช่วยชะลอกระบวนการความชรา และลดความเสี่ยงการเกิดโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอายุได้อีกด้วย

IV Drip NAD+ เหมาะสำหรับใคร

W9 NAD+ Therapy ตอบโจทย์สำหรับบุคคลที่:
  • ต้องการชะลอวัย ชะลอการเสื่อมของเซลล์ต่างๆ
  • มองหาการเพิ่มพลังงานระดับเซลล์ และลดความเหนื่อยล้า
  • ต้องการฟื้นฟูการทำงานของระบบประสาทและสมอง
  • ประสบภาวะการเสื่อมถอยของเซลล์สมองและความจำ
  • ต้องการฟื้นฟูความแข็งแรงและการทำงานของกล้ามเนื้อ
  • เพิ่มประสิทธิภาพการลดน้ำหนัก และการเผาผลาญไขมัน
  • กู้คืนร่างกายจากการติดยาเสพย์ติดและการใช้สารเคมีบางอย่างในทางที่ผิด

เหตุใดระดับ NAD+ จึงมีความสำคัญต่อการชะลอวัย

ดร. เดวิด ซินแคลร์ นักวิทยาศาสตร์ด้านการชะลอวัยที่มีชื่อเสียงระดับโลกค้นพบว่า เมื่อระดับ NAD+ ลดลง มันจะเร่งให้เกิดผลข้างเคียงทางลบในกระบวนการความแก่

สิ่งที่ ดร. ซินแคลร์ค้นพบคือลักษณะของยีนซุปเปอร์ฮีโร่ หรือที่รู้จักกันในชื่อของ Sirtuins ที่มีบทบาทอย่างมากต่ออายุร่างกาย นับได้ว่า Sirtuins เป็น CEO ของเซลล์ชะลอวัย เมื่อ Sirtuins ถูกเปิดให้ทำงาน มันจะช่วยปกป้อง DNA และควบคุมกระบวนการความชราของเซลล์ของคุณ อย่างไรก็ตาม Sirtuins จำเป็นต้องไปเพิ่มระดับ NAD+ ให้กับการทำงานเพื่อเริ่ม/หยุดการป้องกันที่เชื่อมโยงกับโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอายุ กล่าวอีกนัยนึง Sirtuins สามารถ “เปิด” และ “ปิด” ยีนบางตัวที่เชื่อมโยงกับความชราได้เหมือนสวิตช์ไฟ ด้วยจำนวนของ NAD+ ที่มากมายทำให้เซลล์ของคุณมีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพที่ดี นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และอายุที่ยืนยาวขึ้น

การลดลงของ NAD+ ทำให้เกิดความชรา?

นักวิทยาศาสตร์ทราบดีว่า NAD+ เป็นหนึ่งในโมเลกุลที่สำคัญที่สุดในร่างกาย และเราจะสูญเสีย NAD+ ไปตามอายุขัย ทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพต่างๆ ซึ่งน่าเสียดายที่ระดับ NAD+ จะลดลงในระหว่างกระบวนการความชรา ระดับของ NAD+ เมื่ออายุ 50 ปี จะเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของ NAD+ เมื่ออายุ 20 ปี และเหลือเพียง 1-10% เมื่ออายุ 80 ปี

การลดลงของ NAD+ ส่งผลให้เกิดการปิดการทำงานของโปรตีน Sirtuins (ยีนควบคุมการแก่ตัวของเซลล์) และยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ PARP ซึ่งทั้ง 2 อย่างส่งผลเสียต่อการทำงานของสมองและสุขภาพของระบบประสาทของเรา

กลไกการทำงานของ NAD+ ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย:

1. มีส่วนช่วยเพิ่มความยาวของเทโลเมียร์
2. กระตุ้นการซ่อมแซม DNA
3. เพิ่มการผลิตพลังงานให้กับเซลล์
4. กระตุ้นให้โครโมโซมแข็งแรง
5. ช่วยเพิ่มระดับสารสื่อประสาท
6. เปิดการทำงานของโปรตีน Sirtuins (ยีนควบคุมการแก่ตัวของเซลล์)
7. เพิ่มการส่งสัญญาณต่อเซลล์ภูมิคุ้มกัน

งานวิจัยในหนูทดลองพบว่า หนูที่ได้รับ Nicotinamide Mononucleotide (NMN) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของ NAD+ ต่อเนื่องเป็นเวลา 12 เดือน

1. ลดน้ำหนักได้มากขึ้น
2. อัตราการเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น
3. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น
4. การเผาผลาญไขมันเพิ่มขึ้น
5. การเผาผลาญในไมโตคอนเดรียเพิ่มขึ้น
6. ประสิทธิภาพการมองเห็นดีขึ้น
7. มวลกระดูกเพิ่มขึ้น
8. ประสิทธิภาพของระบบภูมิต้านทานดีขึ้น

โปรแกรม W9 NAD+ Therapy จะช่วยแก้ไขข้อบกพร่องของระบบการเผาผลาญที่พบได้ทั่วไปในกระบวนการความชรา รวมถึงสภาพทางระบบประสาท, โรคหลอดเลือดหัวใจ, เบาหวาน, โรคอ้วน และปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอายุ ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้ว ในงานวิจัยและวารสารเชิงวิชาการ
การรักษาด้าน NAD+ จะสนับสนุน และแก้ไขระบบการทำงานในส่วนต่างๆ ของร่างกายที่จำเป็น เพิ่มประสิทธิภาพการชะลอวัย ชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังที่มาพร้อมกับความชรา ช่วยให้ร่างกายคุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ฟื้นคืนความแข็งแรงแบบย้อนวัย

เลือกทำ NAD+ Therapy ที่ W9 Wellness

ปลอดภัย ให้บริการภายใต้คำแนะนำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การรับ NAD+ ที่ W9 Wellness จะมีการเติมสารกลุ่ม Methyl เข้าไปให้ในการรับบริการทุกครั้ง จึงมั่นใจได้ว่าการทำ NAD+ จะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการ Methylation ในร่างกาย

โปรแกรมแนะนำ

NAD+ช่วยให้กระตุ้นให้ระบบเผาผลาญทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ทั่วทั้งร่างกาย

ราคา ฿9,000.00 บาท

จะเป็นอย่างไรหากอายุร่างกาย แก่เกินกว่าอายุจริง ตรวจเทโลเมียร์ (Telomere Length) กุญแจแห่งความลับของอายุที่ยืนยาว

ราคา ฿15,000.00 บาท

ปรึกษาปัญหาสุขภาพและรับสิทธิพิเศษสำหรับคุณได้ที่นี่

บทความที่เกี่ยวข้อง

ฮอร์โมนเพศชาย ถือว่ามีความสำคัญต่อการทำงานในระบบอื่นๆ ของร่างกาย ซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่จะทราบกันดีว่าฮอร์โมนชนิดนี้มีส่วนช่วยในเรื่องของสมรรถภาพทางเพศ และอารมณ์ความต้องการทางเพศ แต่ในความเป็นจริงแล้วฮอร์โมนเพศชายยังมีบทบาทสำคัญในการทำงานของร่างกายส่วนอื่นด้วย เช่น ช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อ ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยให้รู้สึกสดชื่นกระฉับกระเฉง กระปรี้กระเปร่า แต่เมื่อไหร่ที่เริ่มมีอาการ หงุดหงิดง่าย ขี้โมโห เบื่อหน่าย เหนื่อยเพลีย นอนหลับยาก ขาดความกระตือรือร้น อารมณ์ทางเพศที่ลดลง หรือน้อยชายไม่แข็ง อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าฮอร์โมนเพศชายเริ่มต่ำลง ดังนั้นการ ตรวจฮอร์โมนผู้ชาย จึงช่วยวางแผนการรักษาให้ระบบต่างๆ ของร่างกายกลับมาทำงานได้ดียิ่งขึ้น ฮอร์โมนไม่สมดุล เกิดจากอะไร ฮอร์โมนไม่สมดุลในผู้ชาย คือ ความไม่สมดุลของฮอร์โมนสามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต ความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศชายอาจเกิดจากความเครียด อาการเจ็บป่วย การกินอาหารที่ไม่ดีพอ ขาดการออกกำลัง รวมถึงการเป็นโรคอ้วน โรคตับ ไขมันสะสมในร่างกายมากเกินไป โรคเบาหวาน อายุที่มากขึ้น และผลข้างเคียงจากยาบางชนิด ซึ่งอาการความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศชายอาจไม่ชัดเจนมากนัก ในบางคนอาจมีปัญหาอ้วนลงพุงง่าย มีเต้านมคล้ายผู้หญิง มีปัญหาต่อมลูกหมากโต มีอาการเหนื่อยเพลียง่าย ออกกำลังกายไม่ค่อยไหว กล้ามเนื้อลีบ รวมถึงมีปัญหาเรื่องเซ็กส์เสื่อมได้ ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนไม่สมดุล ยกตัวอย่างเช่น ในตอนเช้าปกติแล้วเวลาผู้ชายตื่นนอนจะเกิดการแข็งตัวขององคชาตเองอัตโนมัติ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่การแข็งตัวขององคชาตเปลี่ยนไปจากทุกวันเหลือ 5 วัน หรือ […]

“อดนอน” มีทฤษฎีของความชรา ทฤษฎีหนึ่งกล่าวไว้ว่า คนเราแก่ ก็เพราะฮอร์โมนตก ทำให้การซ่อมแซม ตามไม่ทันความเสื่อม แต่คนสมัยนี้แก่เร็วขึ้น บางคนอายุแค่ 20 ปีกว่าๆ ร่างกายเริ่มเสื่อมลงแล้ว ไหนจะโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน เมื่อก่อนจะพบกับคนที่อายุมาก แต่ในปัจจุบันเรากลับมาพบว่าคนอายุน้อยๆ เริ่มเป็นโรคดังกล่าวกันมากขึ้นเพราะเหตุผลของการ อดนอน เราชอบคิดเองว่า เดี๋ยวนอนชดเชยเอาทีหลังก็ได้ ยิ่งในช่วงวัยรุ่น เป็นวัยที่ฮอร์โมนยังพลุ่งพล่าน ร่างกายยังสามารถผลิตฮอร์โมนชดเชยความเสียหายในระยะสั้นที่เกิดจากการอดนอน ได้อยู่ทำให้เราไม่ค่อยรู้สึกถึงผลเสียของการอดนอนสักเท่าไหร่ เพราะร่างกายยังสามารถปรับตัวได้ดี แต่ถ้ายังนอนผิดเวลาต่อเนื่องเป็นนระยะเวลานาน จนเป็นนิสัย ไม่นานเกินรอ สุดท้าย ร่างกายก็จะ “พัง” ก่อนเวลาอันควรอยู่ดี 6 ผลเสียของการ “อดนอน” หรือนอนไม่เป็นเวลา นอกจากนี้ การอดนอนยังสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็ง ฮอร์โมนเมลาโทนินที่ลดลงจากการเปิดไฟทำงานทั้งคืน มีผลเร่งการกลายพันธุ์ของยีน เพิ่มโอกาสเกิดมะเร็งมากมาย เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชาย การอดนอนไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะครับ โกรทฮอร์โมน ฮีโร่ของการนอนเร็ว โกรทฮอร์โมน เป็นฮอร์โมนที่จำเป็นสำหรับทุกเพศ ทุกวัย ในวัยเด็กจำเป็นต่อการพัฒนาการของเด็ก ทั้งร่างกาย ความสูง […]

มีคนไข้หลายคนเข้ามาปรึกษาหมอว่า ทำไมบางครั้ง กินโพรไบโอติกส์ แล้วไม่เห็นผล เพราะเห็นโฆษณาว่าช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น ช่วยเรื่องลดน้ำหนัก และยังช่วยเรื่องภูมิแพ้ แต่กินไปแล้วกลับกลายเป็นว่าไม่ช่วยอะไรเลย หมอต้องบอกก่อนว่า เราต้องอย่าลืมว่าโพรไบโอติกส์มันมีชีวิต และโพรไบโอติกส์ไม่ใช่ยา ดังนั้นเราจึงไม่สามารถควบคุมอาการมันได้ทุกอย่างได้ มันจึงมีปัจจัยหลายๆ อย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง หนึ่งในนั้นก็คือ ชนิด และจำนวนของโพรไบโอติกส์ที่ต้องรีบประทาน วันนี้หมอมีคำแนะนำว่าจริงๆ แล้ว เราควร กินโพรไบโอติกส์ตอนไหน กันแน่ถึงจะเห็นผล เราควรเลือก กินโพรไบโอติกส์ตอนไหน ถึงจะเห็นผล? ก็ต้องบอกว่าจริงๆ แล้วในการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของโพรไบโอติกส์ในปัจจุบันมีค่อนข้างมากเลย แล้วส่วนใหญ่ก็จะพบว่า มีประโยชน์กับร่างกายของเราจริงๆ เพียงแต่ว่าเราต้องไม่ลืมว่า พอพูดถึงจุลินทรีย์มันมีหลากหลาย หลายพัน หลายหมื่น หลายแสนล้านชนิดอยู่ในร่างกาย มีชนิดย่อยๆ เต็มไปหมดเลย ทุกวันนี้เรายังศึกษาได้แค่บางส่วน มันก็จะมีเชื้อจำนวนนึงที่อยู่ในลิสต์ว่ามันเป็นเชื้อที่ดี ในเชื้อแต่ละตัวเองก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป มีคุณสมบัติที่คาบเกี่ยวกันไป เพราะฉะนั้นการจะเลือกโพรไบโอติกส์กับปัญหานึงเนี่ย จริงๆ หมอมองว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย บางทีมันไม่อาจจะสามารถใช้เชื้อรวมๆ เหมือนว่าเอา 10 ตัวนี้มาแล้วมาใช้กับทุกสภาวะได้ เพราะว่าในแต่ละคนเองก็มีความหลากหลายของชนิดเชื้อที่แตกต่างกันอีกเหมือนกัน การกินโพรไบโอติกส์ที่มากเกินไป หรือว่าชนิดที่อาจจะไม่ได้เหมาะสมกับเรา บางทีอาจจะนำมาสู่การเสียสมดุลของจุลินทรีย์ในทางเดินอาหาร หรือว่าทำให้โพรไบโอติกส์ในท้องของเรา จากที่มันดีอยู่แล้วกลับแย่ลงด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นแล้ว การกินโพรไบโอติกส์ให้เหมาะสมกับบุคคล […]

thThai