ค้นหา
ปิดช่องค้นหานี้
ตรวจวิตามินดี

ตรวจวิตามินดี ป้องกันความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง

มะเร็ง นับเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนไทย ที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 20 ปี เราพบคนไทยเสียชีวิตจากมะเร็งทุกชนิดรวมกันปีละเกือบ 70,000 คน โดยทิ้งห่างจากโรคอื่นๆ ในอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี ทั้งนี้มะเร็งนั้นจัดอยู่ในกลุ่มของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่มีความรุนแรงมากที่สุด และอีกวิธีคือการ ตรวจวิตามินดี เพื่อป้องกันความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง

คำแนะนำเพื่อป้องกันมะเร็ง

  1. น้ำหนักสมดุล
  2. ขยับร่างกายอยู่เสมอ
  3. เลือกทานอาหาร whole grain, ผักผลไม้ และถั่ว
  4. จำกัดอาหาร fast food และ อาหารแปรรูป ที่มีแป้ง น้ำตาลและไขมันสูง
  5. จำกัดการบริโภคเนื้อแดงแปรรูป
  6. ลดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือสารให้ความหวาน
  7. จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์
  8. ให้นมลูกเองสำหรับคุณแม่
ตรวจวิตามินดี
สิ่งที่หมออยาก “เน้นย้ำ” กับทุกคนเกี่ยวกับสาเหตุของโรคมะเร็ง ก็คือ
ตรวจวิตามินดี

จริงๆ แล้วโรคมะเร็งนั้นมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม (Genetics) น้อยมาก พบเพียง 10% โดยเฉลี่ย ที่เหลืออีกมากกว่า 90% มีสาเหตุมาจากปัจจัยภายนอกที่ไม่ใช่พันธุกรรม (Epigenetics)

สาเหตุส่วนใหญ่ของโรคมะเร็งเราทราบกันดีอยู่แล้ว ได้แก่ พฤติกรรมการกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ และอาหารปิ้งย่าง ไม่ทานผักผลไม้ สูบบุหรี่ ดื่มสุรา โรคอ้วน การติดเชื้อเรื้อรัง ความบกพร่องของภูมิคุ้มกัน รวมถึงความเครียดเรื้อรังด้วย

มีการศึกษาถึงความสัมพันธ์ของระดับวิตามินดีในเลือดกับอัตราการเกิดมะเร็ง แล้วพบว่า มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญจริงๆ โดยกลุ่มคนที่มีระดับวิตามินดีต่ำ จะมีโอกาสเป็นมะเร็งมากกว่ากลุ่มที่มีระดับวิตามินดีสูง จึงสรุปได้ว่า ภาวะขาดวิตามินดีเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งมากกว่า 20 ชนิด การ ตรวจวิตามินดี และการเสริมวิตามินดีก็ช่วยลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งต้อมลูกหมาก และมะเร็งรังไข่ได้อีกด้วย

วิตามินดีต่ำในผู้ชาย

งานวิจัยในประเทศฟินแลนด์ ทำการศึกษากลุ่มผู้ชายวัยกลางคน จำนวน 19,000 คน ใช้เวลาเก็บข้อมูลทดลองนานกว่า 13 ปี พบว่า คนที่มีระดับวิตามินดีต่ำกว่าค่าเฉลี่ย มีอัตราการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก มากกว่า คนที่มีระดับวิตามินดีสูงกว่าค่าเฉลี่ย ถึง 70%

ตรวจวิตามินดี

วิตามินดีต่ำในผู้หญิง

ผู้หญิงที่วิตามินดีต่ำ มีความเสี่ยงมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า คนไข้มะเร็งเต้านมที่มีวิตามินดีต่ำ พบว่า มะเร็งกระจายตัวเร็วกว่า และมีอัตราการเสียชีวิตมากกว่า การเสริมวิตามินดีจึงช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งได้ 20% และยิ่งเสริมวิตามินดีเร็ว ก็ยิ่งลดอัตราการเสียชีวิตได้มากขึ้นไปอีกถึง 49%

ตรวจวิตามินดี

วิตามินดีนั้นมีความสามารถช่วยในการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งระดับเซลล์ในหลากหลายกลไก เช่น ควบคุมวงจรชีวิตของเซลล์ โดยมีส่วนช่วยในการบวนการควบคุมการแบ่งตัวของเซลล์ ต้านการอักเสบ ต้านการสร้างหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงก้อนมะเร็ง ต้านการเจริญเติบโตและการกระจายตัวของเซลล์มะเร็ง มากไปกว่านั้น วิตามินดียังมีหน้าที่ควบคุมการแสดงออกของยีนหลายตำแหน่ง ที่มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็ง และการเกิดโรคภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ

สรุปว่า ในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง หรือผู้ป่วยโรคมะเร็ง การเสริมวิตามินดีนั้นมีประโยชน์ชัดเจน ในการลดความรุนแรง ชะลอการดำเนินโรค และลดอัตราการเสียชีวิตได้

ในคนสุขภาพดี ที่มีวิตามินดีต่ำ การเสริมวิตามินดี สามารถลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งได้ โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งเต้านม แต่ในชั่วโมงนี้ ประชาชนสุขภาพดีทั่วไปทีระดับวิตามินดีไม่ต่ำ เราอาจจะยังไม่สามารถสรุปได้ว่า การเสิรมวิตามินดีให้สูงขึ้นอีกหน่อย จะสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งได้เพิ่มอีกหรือไม่ เนื่องจากงานวิจัยหลายชิ้นยังให้ข้อมูลที่ขัดแย้งกัน

ตรวจวิตามินดี

ในกรณีนี้ ท่านผู้อ่านลองพิจารณาดูเอาแล้วกันนะครับ ว่าจะเสริมหรือไม่อย่างไร หมอไม่พันธงให้นะครับ

หนังสือ Healthitude สุข(อุดม)คติ
นพ.พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฎ์ (หมอบาย)

Share : 

บทความที่เกี่ยวข้อง

จากสถิติปี 2563 พบมะเร็งปากมดลูกในสตรีไทยเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม

ยิ่งแก่ยิ่งท้องผูก ปัญหาท้องผูกสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่จะพบได้บ่อยและเยอะในผู้สูงอายุ ซึ่งในประเทศไทยพบ คนแก่ท้องผูก ถึง 20-25% เลยทีเดียว ซึ่งหากสังเกตุดูคนที่อายุเยอะๆ เราจะพบว่าพวกเขาเหล่านี้มีปัญหาเรื่องลำไส้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการย่อยอาหาร ท้องอืด ท้องผูก แล้วสาเหตุท้องผูกในผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง และเราจะช่วยแก้ปัญหาท้องผูกในผู้สูงอายุยังไงกันดี แหล่งที่มาคนไทยท้องผูก กรมการแพทย์ ทำไมผู้สูงอายุถึงท้องผูก สาเหตุที่ คนแก่ท้องผูก ไม่ใช่ว่ากินไฟเบอร์ไม่พอเพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดจากการที่ระบบร่างกายมันเปลี่ยน การเผาผลาญเริ่มไม่ดี สมดุลฮอร์โมนไม่สมดุล เช่น การทำงานของไทรอยด์ลดลง รวมถึงสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ที่ลดลง เพราะตั้งแต่อายุ 40+ ขึ้นไป โพรไบโอติกส์ ในลำไส้เริ่มลดลง ทำให้จุลินทรีย์ดังกล่าวทำงานได้ไม่ดี จึงเกิดอาการท้องผูกได้ง่ายขึ้นในผู้สูงอายุ เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้วก็ต้องมองย้อนกลับไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต เราอาจจะเริ่มปรับอาหารการกิน ปรับการออกกำลังกาย การดื่มน้ำเปล่า และปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ เพราะถึงแม้เราจะคิดว่าเราทานอาหารที่เป็นออแกนิคทั้งหมด แต่อย่าลืมว่า ร่างกายของเราอาจจะไม่ได้เหมาะกับอาหารชนิดนั้นก็ได้ ยิ่งเราแก่ขึ้นร่างกายและระบบการย่อยอาหารก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว การจะกินแบบเดิมก็อาจจะไม่ได้ผล เพราะสมดุลจุลินทรีย์ในร่างกายได้เปลี่ยนไปแล้ว และถ้าจะให้ดีก็แนะนำว่าควรที่จะตรวจสมดุลจุลินทรีย์ จะได้รู้ว่าร่างกายขาดจุลินทรีย์ตัวไหน เราก็จะได้เสริมให้ตรงกับร่างกายและอาการที่เราเป็น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สาเหตุที่ผู้สูงอายุท้องผูกมีอะไรบ้าง การดูแลสุขภาพลำไส้ถือว่าเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในผู้สูงอายุ  โดยเฉพาะในเรื่องของอาหารการกิน การออกำลังกาย และการรักษาสมดุลจุลินทรีย์ในไล้ให้มีความสมดุล และถ้าเราสามารถรู้ได้ว่าร่างกายของเราขาดจุลินทรีย์ชนิดไหน […]

“อยากท้อง ทำไมไม่ท้อง” เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายคนคงหมดกันไปเยอะ ถ้าให้เปรียบเทียบก็คงเหมือนประโยคที่ว่า “เสียเป็นแสนแขนลูกไม่ได้เตะ”