ค้นหา
ปิดช่องค้นหานี้

NK Cell เซลล์เพชฌฆาต นักฆ่าอัตโนมัติ ยิ่งเยอะยิ่งดี เสริมภูมิคุ้มกันต้านไวรัส

NK Cell Therapy คือเม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง เป็นระบบภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิดของร่างกาย เปรียบได้เหมือนกองทัพทหารของร่างกายที่คอยปกป้อง และคอยกำจัดสิ่งแปลกปลอม เชื้อโรค เชื้อไวรัส รวมถึงมะเร็งที่กำลังคุกคามร่างกายของเราอยู่ด้วย เซลล์เพชฌฆาตสามารถทำหน้าที่ได้แบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องรอการกระตุ้นจากระบบภูมิต้านทาน (Antibody) และไม่ต้องจดจำลักษณะของสิ่งแปลกปลอมชนิดนั้นๆ ก่อนเหมือนเม็ดเลือดขาวทั่วไป ทำให้ เซลล์เพชฌฆาต มีความสามารถในการทำลายมะเร็งได้สูงกว่าเม็ดเลือดขาวอื่นๆ ถึง 100 เท่า

ซึ่งปกติแล้วในร่างกายของคนเราจะมีเซลล์เพชฌฆาตอยู่ที่ประมาณ 2,000– 5,000 ล้านตัวเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมรุกล้ำเข้ามา เซลล์เพชฌฆาตจะรู้ได้ทันทีและเหมือนกองทหารที่คอยปกป้อง พร้อมเคลื่อนเข้าไปเผชิญหน้ากับเซลล์แปลกปลอมเหล่านั้นภายใน 24 ชั่วโมง ทันทีที่เคลื่อนเข้าไปถึงนั้นจะเกิด 2 สิ่งขึ้นด้วยกัน

1) จัดการกับสิ่งแปลกปลอม โดยการปกป้องสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ในร่างกาย

2) จะทำงานไปพร้อมกับการปล่อยสารโปรตีนในกระแสเลือดเรียกว่า Cytokine มาเป็นผู้ส่งสารมาช่วยเซลล์เพชฌฆาตทำลายสิ่งแปลกปลอม หรือช่วยป้องกันการโตของเนื้อร้าย

NK Cell Therapy ต่ำลง ร่างกายแสดงผลยังไง?

ในภาวะปกติจะพบเซลล์เพชฌฆาตอยู่ที่ประมาณ 10-15% ของเม็ดเลือดขาวชนิด Lymphocyte และมีโอกาสลดลงได้จากความอ่อนแอของร่างกายที่เพิ่มขึ้น โดยมักเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งเพิ่มได้มากขึ้นด้วย บวกกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวัน เช่นกินโปรตีนน้อยพักผ่อนน้อย ดื่มหนัก สูบบุหรี่บ่อย เป็นต้น ผู้ที่มีการติดเชื้อบ่อย เช่น เริม งูสวัด โรคตับอักเสบ หรือเป็นหวัดบ่อยกว่าแต่ก่อน อาจเป็นสัญญาณของภูมิคุ้มกันตก หรือ เซลล์เพชฌฆาตต่ำเพราะเริ่มมีจำนวนน้อยลง

“ภูมิต้านทานตก แต่ร่างกายยังได้รับสารพิษ(Toxic)ทุกวัน
จากสิ่งปนเปื้อนในชีวิตประจำวัน เช่น อาหาร ไลฟ์สไตล์ ฝุ่นควัน
โดยเฉพาะไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ ที่พร้อมเข้ามาทำลายร่างกาย”

เมื่อไรก็ตามที่ระดับ เซลล์เพชฌฆาตต่ำ จึงทำให้เชื้อไวรัสโจมตีสิ่งผิดปกติในร่างกายได้ง่าย ทั้งยังลุกลามต่อไปสร้างกองกำลังเป็นของตัวเองโดยอาศัยร่างกายเราเป็นฐานทัพใหญ่อีกด้วย ผู้ที่ภูมิคุ้มกันต่ำจึงมีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่ายเมื่อเทียบกับผู้ที่มีภูมิต้านทานปกติ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก โรคตับอักเสบ การติดเชื้อไวรัส ทั้งยังเป็นภาวะที่เปิดโอกาสให้สิ่งผิดปกติดังกล่าวสามารถพัฒนาไปสู่ระยะของโรคร้าย อย่างมะเร็ง (Cancer) ร่วมด้วยได้

เซลล์เพชฌฆาต ส่งเกราะให้ภูมิคุ้มกัน ต้านไวรัสแบบ 1:1

เราสามารถเพิ่มจำนวน เซลล์เพชฌฆาต ในร่างกายเราได้ด้วยวิธีดังนี้
  1. การเพิ่มปริมาณเซลล์เพชฌฆาต ด้วยตนเอง
  • รับประทานอาหารให้เป็นเวลา ครบ 5 หมู่ และมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะผักใบเขียว เนื้อสัตว์ และนมถั่วเหลือง
  • งดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • นอนพักผ่อนให้ได้อย่างน้อย 7 ชม./วัน อีกทั้งพยายามให้จิตใจผ่อนคลาย ไม่เครียด
  • รับประทานอาหารเสริมที่ช่วยเพิ่มการทำงานของเซลล์เพชฌฆาต แต่ต้องเลือกที่มีการรับรองจากหน่วยงานที่ได้มาตรฐานทั้งในและต่างประเทศ และมีผลการวิจัยหรือผลการทดลองแล้วว่าใช้ได้จริง
  • วิธีที่กล่าวมาข้างต้นอาจจะเห็นผลไม่ชัดเจน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของร่างกายของแต่ละบุคคล รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ด้วย
  1. ใช้เทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวนในห้องปฏิบัติการ

คือกระบวนการคัดแยก เซลล์เพชฌฆาตออกจากเม็ดเลือดปกติ เพื่อนำมาเข้าสู่กระบวนการเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติมาตรฐานสากล โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 15-21 วัน จนได้ เซลล์เพชฌฆาตที่มีประสิทธิภาพสูงสุดก่อนจะนำมาฉีดกลับให้คนไข้ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรงขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการปะทะกับเชื้อไวรัสแบบ 1 ต่อ 1 เพิ่มกำลังของหน่วยทหารให้พร้อมต่อสู้กับเชื้อไวรัสและสิ่งแปลกปลอมที่พยายามแทรกเข้าสู่ร่างกายตลอดเวลา

การทำ เซลล์เพชฌฆาต ยังสามารถใช้ร่วมกับการรักษามะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งตับอ่อน และมะเร็งปอด เพราะเซลล์เพชฌฆาตจะคอยทำหน้าที่ค้นหาความผิดปกติและกำจัดซากเชื้อโรคที่ตายแล้วออกจากร่างกายทุกวัน จึงมีส่วนช่วยลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำของโรคร่วมด้วยได้

NK Count and NK Actitvity Test

  • Pre-Screening : เป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้น เพื่อตรวจสอบระดับและประสิทธิภาพของ NK Therapy ก่อนการรักษา
  • Blood Drawing : การเจาะเลือดสำหรับใช้กระบวนการเพาะเลี้ยงเซลล์เพชฌฆาต
  • NK Culture : แยกและเพาะเลี้ยงเซลล์เพชฌฆาต เพื่อเพิ่มปริมาณและประสิทธิภาพการทำงาน
  • NK Treatment : ให้เซลล์เพชฌฆาตกลับเข้าสู่ร่างกาย เพื่อใช้งานตามปกติ

การทำเซลล์เพชฌฆาต คือ กระบวนการคัดแยก เซลล์เพชฌฆาต ออกจากเม็ดเลือดปกติ เพื่อนำมาเข้าสู่กระบวนการเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติมาตรฐานสากล โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 15-21 วัน จนได้ เซลล์เพชฌฆาต ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับคนไข้ ก่อนจะนำมาฉีดกลับให้คนไข้ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรงขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการปะทะกับเชื้อไวรัสแบบ 1 ต่อ 1 เพิ่มกำลังของหน่วยทหารให้พร้อมต่อสู้กับเชื้อไวรัสและสิ่งแปลกปลอมที่พยายามแทรกเข้าสู่ร่างกายตลอดเวลา  การทำเซลล์เพชฌฆาตยังสามารถใช้เป็นการรักษาทางเลือก (Alternative) หรือการรักษาร่วม (Complementary) กับการรักษามะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งตับอ่อน และมะเร็งปอด เป็นต้น เพราะเซลล์เพชฌฆาต จะคอยทำหน้าที่ค้นหาสิ่งที่มีหน้าตาผิดปกติและกำจัดซากเนื้อร้ายที่ตายแล้วออกจากร่างกายทุกวัน จึงมีส่วนช่วยลดโอกาสการกลับเป็นซ้ำของโรคร่วมด้วยได้

คนกลุ่มไหนบ้างที่ควรตรวจวัดระดับเซลล์เพชฌฆาต

1. ผู้ที่มีความผิดปกติ หรือมีโรคประจำตัว
 

ครอบครัว หรือญาติพี่น้องป่วยด้วยมะเร็ง

มีความผิดปกติระดับเชิงลึก

 

ผู้ที่มีภาวะอาการจากการรักษามะเร็ง

 

ผู้ป่วยตับอักเสบเรื้อรังจากการติดเชื้อไวรัส

 

ผู้ที่มีปัญหาอาการป่วยเรื้อรัง

 

ผู้ที่มีอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง

 

สูบบุหรี่อย่างหนักต่อเนื่องทุกวัน

 

ผู้ที่ต้องสัมผัสกับฮอร์โมนหรือมลพิษตลอดเวลา

 

ผู้ที่มีปัญหาความเครียดเรื้อรัง

 

ผู้ที่ได้รับสารอาหารไม่ครบ 5 หมู่

 
1. ผู้ที่มีความผิดปกติ หรือมีโรคประจำตัว
 

ต้องการตรวจติดตามการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันแบบไม่จำเพาะของตนเอง

 
 

เพื่อเป็นฐานข้อมูลทางด้านสุขภาพของตนเองและข้อมูลด้านปัจจัยเสี่ยงการเกิดมะเร็ง เพื่อการป้องกันในเบื้องต้น

โรคที่ใช้เซลล์เพชฌฆาตร่วมกับวิธีการรักษาในปัจจุบัน

กลุ่มโรคมะเร็ง

  • มะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukemia)
  • มะเร็งรังไข่ (Ovarian cancer)
  • มะเร็งเต้านมบางชนิด (HER2+ Breast Cancer)
  • มะเร็งเนื้อเยื่อระบบประสาท (Neuroblastoma)
  • มะเร็งปอดชนิด Adenocarcinoma
  • มะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colorectal cancer)

กลุ่มที่ไม่ใช่มะเร็ง

  • ติดเชื้อไวรัส (Viral Infection)
  • โรคแพ้ภูมิตัวเอง (Autoimmune Disease)
  • เบาหวานชนิดที่ 1 (Type I Diabetes)

การใส่ใจดูแลสุขภาพ รักษาคุณภาพการใช้ชีวิตประจำวันให้ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญที่แพทย์มักเน้นย้ำกันอยู่บ่อยๆ เพราะเป็นวิธีสำคัญที่ช่วยรักษาความแข็งแรงให้กองทัพทหารแต่ละหน่วยได้ดีที่สุด ยิ่งในสภาวะปัจจุบันที่ร่างกายเราถูกห้อมล้อมด้วยสารพิษ และเชื้อไวรัสเกือบจะตลอดเวลา ยังไม่รวมถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตส่วนตัวที่มีส่วนทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลงได้ ยิ่งทำให้หน่วยทหาร(ภูมิคุ้มกัน)ต้องทำงานหนักขึ้นเป็นหลายสิบเท่า การรักษาสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Medicine) จึงเป็นแนวทางการดูแลสุขภาพที่ช่วยรักษาความแข็งแรงให้ร่างกาย ลดโอกาสเจ็บป่วย และหลีกเลี่ยงโรคชนิดต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเกราะให้ภูมิคุ้มกัน ยืดเวลาความแข็งแรง!

เพชฌฆาต นักฆ่าอัตโนมัติ

โปรแกรมตรวจวิเคราะห์การทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว NK Cell Activity เพื่อดูประสิทธิภาพการทำงาน ว่าสามารถฆ่าเชื้อไวรัส หรือเซลล์แปลกปลอม ที่เกิดขึ้นในร่างกายของเราได้มาน้อยแค่ไหน เพื่อจะได้วางแผนการป้องกันก่อนเกิดโรค

ราคา ฿180,000.00 บาท

NK Count & NK Activity Test เช็กจำนวนและประสิทธิภาพเซลล์เพชฌฆาต ตรวจประเมินความสามารถในการทำงานของ NK Cell ที่ทำหน้าที่เป็นด่านแรกในการกำจัดเชื้อไวรัส อย่างเซลล์มะเร็ง

ราคา ฿20,000.00 บาท

ปรึกษาปัญหาสุขภาพและรับสิทธิพิเศษสำหรับคุณได้ที่นี่

บทความที่เกี่ยวข้อง

ฮอร์โมนเพศชาย ถือว่ามีความสำคัญต่อการทำงานในระบบอื่นๆ ของร่างกาย ซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่จะทราบกันดีว่าฮอร์โมนชนิดนี้มีส่วนช่วยในเรื่องของสมรรถภาพทางเพศ และอารมณ์ความต้องการทางเพศ แต่ในความเป็นจริงแล้วฮอร์โมนเพศชายยังมีบทบาทสำคัญในการทำงานของร่างกายส่วนอื่นด้วย เช่น ช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อ ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยให้รู้สึกสดชื่นกระฉับกระเฉง กระปรี้กระเปร่า แต่เมื่อไหร่ที่เริ่มมีอาการ หงุดหงิดง่าย ขี้โมโห เบื่อหน่าย เหนื่อยเพลีย นอนหลับยาก ขาดความกระตือรือร้น อารมณ์ทางเพศที่ลดลง หรือน้อยชายไม่แข็ง อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าฮอร์โมนเพศชายเริ่มต่ำลง ดังนั้นการ ตรวจฮอร์โมนผู้ชาย จึงช่วยวางแผนการรักษาให้ระบบต่างๆ ของร่างกายกลับมาทำงานได้ดียิ่งขึ้น ฮอร์โมนไม่สมดุล เกิดจากอะไร ฮอร์โมนไม่สมดุลในผู้ชาย คือ ความไม่สมดุลของฮอร์โมนสามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต ความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศชายอาจเกิดจากความเครียด อาการเจ็บป่วย การกินอาหารที่ไม่ดีพอ ขาดการออกกำลัง รวมถึงการเป็นโรคอ้วน โรคตับ ไขมันสะสมในร่างกายมากเกินไป โรคเบาหวาน อายุที่มากขึ้น และผลข้างเคียงจากยาบางชนิด ซึ่งอาการความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศชายอาจไม่ชัดเจนมากนัก ในบางคนอาจมีปัญหาอ้วนลงพุงง่าย มีเต้านมคล้ายผู้หญิง มีปัญหาต่อมลูกหมากโต มีอาการเหนื่อยเพลียง่าย ออกกำลังกายไม่ค่อยไหว กล้ามเนื้อลีบ รวมถึงมีปัญหาเรื่องเซ็กส์เสื่อมได้ ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนไม่สมดุล ยกตัวอย่างเช่น ในตอนเช้าปกติแล้วเวลาผู้ชายตื่นนอนจะเกิดการแข็งตัวขององคชาตเองอัตโนมัติ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่การแข็งตัวขององคชาตเปลี่ยนไปจากทุกวันเหลือ 5 วัน หรือ […]

มะเร็งลำไส้ใหญ่ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พบมากเป็นอันดับ 3 ในผู้ชาย อันดับ 2 ในผู้หญิง ซึ่งมีผู้ป่วยรายใหม่วันละ 44 คน หรือ 15,939 คน/ปี และมีผู้เสียชีวิตวันละ 15 คน หรือ 5,476 คน/ปี จริงๆ แล้วโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เราสามารถป้องกันได้ด้วย การตรวจคัดกรองมะเร็ง เพราะหากเราตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจะทำให้การรักษาได้ผลดี และมีโอกาสหายจากโรคสูง โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรตรวจคัดกรองมะเร็งทุกปี ที่มา : สถิติสาธารณสุข พ.ศ. 2562 กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colon Cancer) คืออะไร โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ คือ การที่มีก้อนเนื้อเกิดขึ้นในลำไส้ใหญ่ และเนื่องจากลำไส้ใหญ่มีลักษณะเป็นท่อ เมื่อมีก้อนเนื้อเกิดขึ้นก็จะทำให้รูลำไส้ใหญ่ตีบลง อุจจาระที่ผ่านมาทางลำไส้ใหญ่ก็จะออกลำบากเพิ่มขึ้น จึงสะสมอยู่ข้างใน ส่งผลให้ให้ท้องอืด แน่นท้อง อึดอัดมากขึ้น เมื่อทางออกตีบ แคบลง อุจจาระที่จะผ่านออกมาจากที่เป็นก้อนก็จะเล็กลง และเนื่องจากก้อนเนื้อมะเร็งจะมีความยุ่ย ถลอกได้ง่ายกว่าเนื้อเยื่อธรรมดา […]

โรคเริมกับงูสวัด เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส กลุ่มที่เรียกว่า ไวรัสเฮอร์ปีส์ (Herpes simplex) แม้ว่าจะเป็นคนละชนิดกัน แต่ก็อยู่ในกลุ่มเชื้อตัวเดียวกัน โดยอาการของโรคเริมจะเป็นตุ่มใส แตกหรือไม่แตกก็ได้ มีอาการค่อนข้างปวดแสบปวดร้อน จะขึ้นบ่อยๆ ที่ริมฝีปาก เนื้อเยื่อข้างในปาก หรือว่าอวัยวะเพศ ส่วนโรคงูสวัดจะเป็นตามตัว สามารถเป็นได้ทั้งร่างกายเลย ทั้งที่หน้า จมูก ตา แขน หลัง ไหล่ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแค่ข้างเดียว จะมีลัษณะเป็นปื้นยาวๆ แต่ที่เป็นลักษณะแบบนั้น ส่วนนึงเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มันเข้าไปที่ปลายประสาท หรือเส้นประสาท มันก็เลยมีลักษณะออกไปเป็นแบบยาวๆ ในปัจจุบันมีทางเลือกในการ รักษาโรคเริม กับงูสวัด ด้วยโอโซนบำบัด อย่างที่เรารู้ว่ากันว่าเชื้อเริมหรืองูสวัด รักษาค่อนข้างยาก แล้วอยู่กับเราค่อนข้างนาน บางคนติดเชื้อมาอาจจะไม่มีอาการไปหลายปีเลยก็ได้ แล้ววันดีคืนดีที่เราแบบเครียดมาก นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลให้ภูมิต้านทานตก อาการดังกล่าวก็แบบโผล่ขึ้นมา กับอีกบางคนเป็นบ่อย การที่เป็นบ่อยๆ แสดงว่าภูมิต้านทานไม่ค่อยดี อันนี้ถือว่าเป็นสัญญาณที่บอกว่าร่างกายเราภูมิต้านทานเริ่มตก เพราะว่าเราเป็นเริมบ่อย ถือว่าสุขภาพเราเริ่มแย่ เป็นการสะท้อนระบบภูมิต้านทานของเราจากภายใน แนวทางการป้องกันการติดเชื้อไวรัส การป้องกันการเกิดอาการ หรือการเกิดโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสทุกชนิด รวมถึงไวรัสเฮอร์ปีส์ด้วย คือที่เราต้องทำให้ระบบภูมิต้านทานของเราดีขึ้น แข็งแรงขึ้น ซึ่งแนวทางการปฏิบัติตัวเบื้องต้น […]