ค้นหา
ปิดช่องค้นหานี้
โรคแพ้ภูมิตัวเอง

โรค SLE หรือ แพ้ภูมิตัวเอง รักษาให้สงบได้ด้วย Ozone Therapy

โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือโรค SLE (Systemic Lupus Erythematosus) กับอีกชื่อนึงที่หลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยดีหรือเคยได้ยินผ่านหูกับ โรคพุ่มพวง เป็นโรคที่มีระดับความรุนแรงในผู้ป่วยแตกต่างกันไป และยังมีปัจจัยการเกิดโรคได้หลายสาเหตุ โรค SLE ไม่ใช่โรคติดต่อ เพราะไม่ใช่โรคติดเชื้อ แต่พันธุกรรมก็มีส่วน เช่น ถ้าเรามีญาติหรือพ่อแม่ที่เป็น โรค SLE เราก็อาจจะมีความเสี่ยงในการเป็นโรค SLE มากกว่าคนทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่จะพบผู้ป่วยในช่วงอายุ 20-40 ปี โดยเฉพาะส่วนมากในเพศหญิง เนื่องจากฮอร์โมนเพศหญิงจะมีความเซนซิทีฟต่อการเกิดโรคนี้มากกว่าผู้ชาย แต่พออายุมากขึ้นการควบคุมโรคจะทำได้ง่ายขึ้น เพราะภูมิคุ้มกันทำงานลดล

โรคแพ้ภูมิตัวเองเกิดจากอะไร

โรคแพ้ภูมิตัวเอง

โรคเอสแอลอี เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิต้านทาน เกิดจากร่างกายมีการสร้างสารบางอย่างออกมาทำลายตัวเอง ซึ่งปกติแล้วร่างกายของเราจะสร้างสารออกมาเพื่อฆ่าเชื้อโรคและทำลายสิ่งแปลกปลอม แต่โรคอันนี้ร่างกายดันมองเห็นว่าเซลล์ในร่างกายของเราเป็นเชื้อโรค ร่างกายเราก็เลยสร้างสารอักเสบขึ้นมาเพื่อที่จะฆ่าสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย จึงทำให้ร่างกายเกิดการอักเสบภายในอวัยวะ ทำให้อวัยวะนั้นๆ ไม่สามารถทำงานได้เป็นปกติ

เช่น มองเห็นผิวหนังเป็นศัตรู ก็จะทำให้ผิวหนังเป็นผื่น ผิวหนังเกิดการอักเสบ หรือมองเห็นไตเป็นศัตรูก็ทำให้ไตเกิดการอักเสบ รวมถึงเห็นเนื้อเยื่อที่เม็ดเลือดเป็นศัตรู ก็ทำให้เกิดภาวะเลือดจาง เม็ดเลือดขาวต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ เป็นต้น

สาเหตุของการเกิด โรค SLE (Systemic Lupus Erythematosus)

ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน เพราะบางครั้งก็ขึ้นอยู่กับผู้ป่วยเองด้วย ว่าผู้ป่วยนั้นมีสภาพร่างกายที่เอื้อในการเกิดโรคหรือไม่ แต่สาเหตุที่เป็นปัจจัยร่วม ได้แก่

  • พันธุกรรม
  • เชื้อโรคหรือสารพิษ โดยเฉพาะเชื้อไวรัส
  • ฮอร์โมนเพศหญิง เนื่องจากว่าพบเพศหญิงเป็นมากกว่าเพศชาย และพบได้บ่อยเมื่อเริ่มมีประจำเดือน ระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด
  • สภาวะแวดล้อมที่มีผลต่อการเกิดโรค ได้แก่ แสงแดด ยา และอาหาร

อาการของ โรค SLE (Systemic Lupus Erythematosus)

  • อาการทั่วไป มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
  • อาการทางผิวหนัง มีผื่นเฉพาะโรค เป็นรูปผีเสื้อตั้งแต่สันจมูกไปสู่โหนกแก้ม ผื่นวงแดงตามใบหน้า หนังศีรษะ และใบหู แผลที่เพดานปากเป็นๆ หายๆ และอาการทางผิวอื่นๆ ที่พบได้บ่อย คือ ผมร่วง ผื่นตามตัวตาม แพ้แสงแดด ปลายมือปลายเท้าซีด
  • อาการทางข้อและกล้ามเนื้อ จะมีอาการปวดข้อมากกว่าลักษณะอักเสบ มักเป็นที่ข้อ เข่า ข้อนิ้วมือ ข้อที่เหมือนกันทั้งสองข้างคล้ายการอักเสบจากรูมาตอยด์ แต่จะต่างกันตรงที่อาการทางข้อของโรคเอสแอลอี ไม่มีอาการการกัดกร่อนของข้อ
โรคแพ้ภูมิตัวเอง

Ozone Therapy กับการรักษา โรคแพ้ภูมิตัวเอง

Ozone Therapy หรือโอโซนบำบัด เป็นการรักษาทางการแพทย์ทางเลือกชนิดหนึ่ง คือการนำโอโซนธรรมชาติมาเติมให้กับร่างกาย เพื่อเป็นการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เสริมสร้างจำนวนเม็ดเลือดขาว ให้สามารถกำจัดเชื้อไวรัสได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกลุ่มโรคของระบบภูมิต้านทานทำลายตัวเอง (Autoimmune disorders) เช่น โรคลูปัส (SLE) โรคข้ออักเสบรูห์มาตอยด์ (Rheumatism) โรคปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง (Fibromyalgia) โรคของต่อมไทรอยด์ (Hashimoto)

โรคแพ้ภูมิตัวเอง
  • ช่วยต้านไวรัส ลดโอกาสเชื้อไวรัสทำลายเซลล์
  • ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
  • ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
  • ช่วยเพิ่มอนุมูลอิสระ
  • ช่วยลดการอักเสบต่างๆ ในร่างกาย

โดยหลักการรักษาจะใช้การบำบัดด้วยออกซิเจนทางหลอดเลือด กระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวมีปริมาณที่เพียงพอในการปกป้องร่างกายและเพิ่มการกำจัดเชื้อโรคให้มีประสิทธิภาพ ต้านอนุมูลอิสระ พร้อมปกป้องภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง บรรเทาอาการอ่อนเพลีย

โอโซนบำบัด (Ozone Therapy) เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัด หรือมีภาวะติดเชื้อ
  • ผู้ป่วยโรคตับอักเสบ เริม งูสวัด
  • ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ทำให้เซลล์มะเร็งถูกกำจัดไปโดยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • ผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้ ลมพิษ หอบหืด
  • ผู้ป่วยโรคภูมิเพี้ยน SLE รูห์มาตอยด์ สะเก็ดเงิน
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต
  • ผู้ที่มีปัญหาแผลเรื้อรัง เช่น แผลเบาหวาน แผลกดทับในผู้ป่วยที่ต้องนอนนิ่งๆเป็นเวลานาน โรคที่เกี่ยวกับเชื้อราต่างๆ

ปัจจุบันการแพทย์มีความก้าวหน้าไปอย่างมาก ถึงแม้โรค SLE เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด และยังรักษาไม่หายขาด แต่เราก็สามารถควบคุมโรคให้สงบลงได้ อาจจะรักษาควบคู่กับการแพทย์ทางเลือก (Alternative Medicine) เช่น การทำโอโซนบำบัด (Ozone Therapy) การตรวจหาสารพิษสะสมในร่างกาย (Toxic Heavy Metal) การตรวจ VitaminD3 การตรวจสมดุลลำไส้ (Gut Microbiome DNA Test) และการเสริมวิตามิน NAD+ Therapy ก็เป็นอีกหลายๆ ตัวเลือก ที่ช่วยให้ผู้ป่วย SLE มีอาการที่ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์ เพราะผู้ป่วยโรค SLE มีอาการที่แตกต่างกัน หากไม่มั่นใจหรือมีคำถาม สามารถนัดหมายเข้ามาปรึกษาที่ W9 Wellness เพื่อจะได้วางแผนการรักษาและการปรับการใช้ชีวิต (Lifestyle modification) เพื่อให้ผู้ป่วยมีอาการที่ดีขึ้น สามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนคนปกติทั่วไป

Share : 

บทความที่เกี่ยวข้อง

สถานการณ์ในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เราใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น เพราะตั้งแต่มีเจ้าไวัรัสเข้ามาหลายคนก็เริ่มดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการล้างมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัย

วัยทองป้องกันได้ พอพูดถึง “วัยทอง” หลายคนคงส่ายหน้าว่าไม่ใช่ฉันแน่ๆ แต่ใครจะไปรู้ว่าอาการที่เราเป็นอยู่แท้จริงแล้วคือ

ช่วงนี้เราได้ยินความสำคัญของ Vitamin D มาค่อนข้างเยอะ ในแต่ละวันร่างกายเราต้องการวิตามินดีเฉลี่ยอยู่ที่

error: Content is protected !!